ปัจจุบันเราต้องใช้ชีวิตอยู่กับสมาร์ทโฟนและสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ ซึ่งอาจทำให้เราเสพติดโดยไม่รู้ตัว เกิดเป็นโรคติดสื่อสังคมออนไลน์ (Social addiction) ขาดปฏิสัมพันธ์กับผู้คนรอบข้าง มีเวลาพักผ่อนน้อย ส่งผลต่อสุขภาพร่างกายในระยะยาว

ดังนั้นเราควรสังเกตตนเองว่ามีอาการของโรคติดสื่อสังคมออนไลน์หรือไม่ด้วยลักษณะ 7 ข้อ ดังต่อไปนี้

1.ใช้เวลากับโซเชียลมีเดียมากกว่าที่ตั้งใจไว้

2.มีอาการกระวนกระวายใจหรือหงุดหงิด เมื่อไม่ได้ใช้โซเชียลมีเดีย

3.ไม่สามารถควบคุมการเข้าถึงโซเชียลมีเดียของตนเอง แม้จะพยายามแล้วก็ตาม

4.ไม่ว่าจะทำกิจกรรมใดอยู่ก็มักจะคิดถึงการใช้โซเชียลมีเดีย

5.เวลาเครียดมักจะใช้โซเชียลมีเดียเพื่อผ่อนคลาย

6.มีการโกหกหรือปิดบัง เพื่อที่จะได้เล่นโซเชียลมีเดีย

7.เกิดปัญหาในการทำงานหรือเกิดปัญหาความสัมพันธ์กับคนใกล้ชิดโดยมีโซเชียลมีเดียสาเหตุ

หากมีลักษณะอาการตาม 7 ข้อที่กล่าวมา แสดงว่าเราอาจเป็นโรคติดสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งสามารถรับมือและแก้ไขได้ด้วยตนเองตามวิธีดังต่อไปนี้

1.มีการตั้งเตือนเวลาการใช้งานโซเชียลมีเดียเป็นตัวช่วย เพื่อลดเวลาการใช้โซเชียลมีเดียให้น้อยลง

2.มีการวางแผนและกำหนดเวลาการใช้งานโซเชียลมีเดียให้ชัดเจน

3.หางานอดิเรกที่สนใจทำ เช่น การออกำลังกาย การทำงานฝีมือ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากโซเชียลมีเดีย

4.ออกไปสังสรรค์พบปะเพื่อนหรือญาติ ไปท่องเที่ยว แทนการใช้เวลาอยู่กับโซเชียลมีเดีย

5.ปรึกษาจิตแพทย์เพื่อหาแนวทางการแก้ไขและรักษาโรคติดสื่อสังคมออนไลน์ หากไม่สามารถแก้ไข ตามวิธีเบื้องต้นด้วยตนเองได้

Reference & Bibliography

Additional Information

ผลงานชิ้นนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา CJR411,JR413 Newspaper Workshop, CJR413,JR414 Magazine Workshop ภาคการศึกษาที่ 2/2562 คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ อาจารย์ที่ปรึกษา ผศ.ขจรจิต บุนนาค และผศ.ณรงค์ศักดิ์ ศรีทานันท์

Writer

เราเขียนงานแต่ละครั้งบอกอะไรได้หลายอย่าง สามารถบ่งบอกความเป็นตัวเราในช่วงเวลานั้น ผ่านภาษาและแนวคิดที่เราใช้ เมื่อเวลาผ่านไป งานเขียนที่เราเคยเขียนไว้จะไม่เปลี่ยนแปลง

Graphic

บรรณาธิการบริหารบ้านกล้วยออนไลน์ปี 2020 ที่คาดหวังให้ตัวเองมีความสุข และใช้ชีวิตตามคำพูดของวินเซนต์ แวนโก๊ะห์ ‘What is done in love is done well’