วัดพระศรีมหาอุมาเทวี หรืออีกชื่อที่คนทั่วไปคุ้นเคยกันดีในนามของ วัดแขกสีลม เป็นวัดทางศาสนาฮินดูซึ่งเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในประเทศไทย ใครหลายคนต่างพากันบอกปากต่อปากว่าสถานที่แห่งนี้ศักดิ์สิทธิ์

แรกเริ่มเดิมที ประเทศไทยตั้งแต่สมัยโบราณมานั้น ได้นับถือศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ แต่เมื่อเวลาเปลี่ยน หลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยน ช่วงระยะหลังที่ผ่านมาก็ได้มีกระแสวัตถุมงคลเข้ามาด้วย แต่อีกสิ่งที่เข้ามามีอิทธิพลกับชาวไทยเลยก็คือการไหว้ขอพรกับเทพต่าง ๆ ในศาสนาฮินดู

ที่มาวัดแขกสีลม

วัดพระศรีมหาอุมาเทวี สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2453-2454 โดยชาวอินเดียกลุ่มหนึ่งที่อาศัยอยู่ในกรุงรัตนโกสินทร์ โดยเลือกสถานที่ตั้งเป็นถนนสีลม เพื่อเป็นสถานที่ให้ชาวฮินดูกราบไหว้ ต่อมาจึงได้รับความนิยมแพร่หลายเป็นอย่างมาก มีการขยับขยายพื้นที่ ตกแต่งใหม่จนงดงามเหมือนในปัจจุบัน

ป้ายหน้าวัดพระศรีมหาอุมาเทวี

แต่เดิมวัดแขกเป็นวัดของทางศาสนาฮินดูที่มีเพียงผู้ที่นับถือเทพเข้าไปสักการะองค์พระแม่มหาอุมาเทวีได้ แต่ภายหลังมาได้เปิดให้แก่ผู้คนที่สัญจรไปมาเข้าไปสักการะได้ วัดแขกเป็นวัดที่มีข้อจำกัดในการนำสิ่งของเข้าไปไหว้หรือเข้าสู่เขตอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็น การห้ามนำเอาเนื้อสัตว์ทุกชนิด หรือผู้หญิงที่มีรอบเดือนเข้าไปในบริเวณวัด เพราะถือว่าเป็นการลบหลู่องค์เทพเป็นอย่างมาก ซึ่งจะมีความแตกต่างจากวัดไทยที่สะดวกสบายกว่า สามารถนำอะไรเข้าไปไหว้พระทำบุญได้ ขอเพียงมีจิตศรัทธาเท่านั้น

ด้านในวัดพระศรีมหาอุมาเทวี

การไหว้ขอพร

การเข้าไปสักการะขอพรองค์เทพนั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพราะของไหว้นั้นมีขายอยู่บริเวณด้านนอกของวัด หรือหากใครอยากจะช่วยเหลือทางวัดเป็นการทำบุญแล้วนั้น ทางวัดก็มีขายในราคาที่ย่อมเยา ชุดขนาดเล็กราคา 60 บาท ชุดขนาดกลางราคา 80 บาท และชุดขนาดใหญ่ราคา 100 บาท ภายในของที่จัดไหว้ก็จะต่างกันไป สิ่งที่เพิ่มมาจะเป็น น้ำมัน ขนาดของมะพร้าว น้ำผึ้ง เป็นต้น ในส่วนของไหว้ธูปเทียนนั้นจะเหมือนกัน โดยมีเทียน ธูป ดอกไม้ และผลไม้

ของไหว้แด่องค์เทพ

ในการไหว้นั้นไม่มีบทสวดที่กำหนดเป็นที่แน่ชัดแล้ว เราสามารถสวดได้ตามความเชื่อ หากใครไปครั้งแรก อยากจะแนะนำให้สวด โอมสักติโอม ตามเสียงที่ทางวัดเปิดเป็นทำนอง วิธีการไหว้นั้นเมื่อได้รับถาดจากทางวัดแล้ว ให้นำไปวางไว้เหมือนถวาย แด่องค์เทพก่อน แล้วจึงนำธูปเทียนไปจุด ต่อมาหากว่าตามความเชื่ออีกสิ่งคือควรเดินเวียนขวา 3 รอบก่อนนำธูปไปปัก เมื่อไหว้ด้านหน้าเสร็จ ต่อไปเป็นทางด้านใน โดยต้องเดินเข้าไปด้านในสุด พราหมณ์จะรอรับถาดของไหว้ ทางด้านเขาจะถามชื่อ เมื่อบอกเขาก็จะรับพานแล้วสวดให้ พร้อมแต้มจุดแดง เป็นอันเสร็จเรียบร้อย การเจิมหน้าผากนั้น ถือเป็นการรับพรจากองค์เทพ

ไหว้ขอพรเพื่อเป็นสิริมงคล

องค์เทพและการขอพร

ภายในวัดแขกนั้นมีเทพให้บูชาอีกมากมาย เราจึงนำชื่อพระองค์มา พร้อมทั้งบอกเป็นแนวทางไว้ว่าเทพองค์ใดจะเด่นเรื่องใดเป็นพิเศษ หรือสามารถขอพรด้านใด ถวายอะไรแก่พระองค์ได้บ้าง แต่ในทุกการถวายจะต้องงดเนื้อสัตว์ทั้งหมดอย่างที่กล่างไปข้างต้น และควรแต่งการให้สุภาพและตั้งจิตตั้งใจให้ดี

พระแม่อุมาเทวี เป็นองค์ประธานของทางวัดแขกสีลม พระแม่ควรขอในเรื่องของ การเลื่อนขั้น ในหน้าที่การงาน ขอความรัก ขอให้มีครอบครัวที่ดี โดยของที่จะนำไปถวายได้แก่ ดอกไม้ที่มีสีแดง หรือ สีเหลือง ขนมที่มีรสชาติมัน ปราศจากเนื้อสัตว์ ไม่มีกลิ่นที่แรงจนเกินไป ใช้เป็นขนมโมทกะหรือลาดูก็ได้ ตลอดจนธัญพืช และผลไม้ต่าง ๆ มะม่วงควรถวายสุก แต่อื่น ๆ ไม่มีปัญหา

พระพิฆเนศ เป็นองค์เทพที่นับถือกันอย่างและควรไหว้เป็นองค์แรก พระองค์เหมาะแก่การขอพร ด้านการค้าขาย ด้านการเรียนก็ดีเพื่อให้เป็นกำลังใจในการรับรู้สิ่งใหม่ ๆ ของถวายพระองค์ ควรเป็น นม น้ำแดงที่ปราศจากการอัดลม ขนมที่พระองค์ทรงโปรดอย่างโมทกะและลาดู ผมไม้ต่าง ๆ เน้นเป็น 9 ชนิด หรือหากมี ชนิดเดียว ก็ควร 9 ผล

พระพรหม พระองค์จะมีพระพักตร์ทั้งหมด 4 พระพักตร์ โดยการนับจะนับวนตามเข็มของนาฬิกา แต่ละด้านก็จะให้พรไม่เหมือนกัน

พระพักตร์แรกด้านหน้า โดดเด่นในเรื่องงาน การเรียน การสอบ

พระพักตร์ที่สอง โดดเด่นในเรื่อง ที่อยู่อาศัย หนี้สินที่มีก็จะเบาบางลง

พระพักตร์ที่สาม โดดเด่น ในเรื่อง สุขภาพครอบครัว ความรัก

พระพักตร์ที่สี่ พระพักตร์สุดท้าย โดดเด่นในเรื่องของโชคลาภ

โดยการบูชาพระองค์นั้นควรไหว้ให้ครบทั้งสี่พระพักตร์ โดยเริ่ม จากด้านหน้า แล้วไล่ตามเข็มนาฬิกาจนกลับมาที่เดิม ของที่ควรถวาย ดอกไม้กลิ่นอ่อน มะลิ ดาวเรือง ดอกบัว ดอกโมก ขนมหวานจะต้องเป็นรสอ่อน ไม่ผสมสี เน้นความเป็นธรรมชาติ ผลไม้ถวายได้ทุกชนิดแนะนำ มะพร้าว สาลี่ ชมพู่ กล้วย ธัญพืชต่าง ๆ สามารถถวายได้ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นแบบสุกหรือไม่สุกก็ตาม

พระขันธกุมาร  เหมาะแก่การขอพรในด้านความกล้าหาญในการที่จะเริ่มต้นใหม่ ขอให้ขจัด ความกลัวในใจ หรือจะขอเป็นการคุ้มครองก็ย่อมได้ ของที่ควรนำไปถวาย ดอกไม้สีแดง สีเหลือง สีขาว และผลไม้

พระแม่กาลี พระแม่ควรขอในเรื่องการคุ้มครองในเรื่องของไสยศาสตร์ สิ่งไม่ดีต่าง ๆ ที่ทำให้ไม่สบายใจ ของที่ควรถวาย ควรเป็นสีแดงทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ดอกไม้สีแดง น้ำแดง ขนมที่มีสีแดง ผลไม้สีแดง และมะนาว มะนาว มีความเชื่อในเรื่องของการปัดเป่าสิ่งไม่ดี บางคนก็ไม่ถวายบางคนก็ถวายแล้วสะดวก หากบูชาที่บ้าน สามารถถวายเนื้อไก่หรือเป็ดแบบปรุงสุกหรือกึ่งสุกกึ่งดิบได้ เมื่อถวายคาวควรมีเหล้าถวาย หากถวายขนม ไม่ต้องถวายเหล้า

พระแม่ลักษมี พรที่ควรขอควรจะเน้นไปในทางขอด้านความรักเพราะพระองค์เป็นเทพแห่งความงาม และมีความรักที่ดี ทางด้านค้าขายก็ขอให้ร้านขายดี มีลูกค้ามาอุดหนุนไม่ขาดสาย ของควรถวาย ไม่ว่าจะขอเรื่องอะไรก็แล้วแต่ควรมี นม น้ำผึ้ง น้ำอ้อยหรือจะเป็นแท่งอ้อยเฉย ๆ ก็ย่อมได้ ผลไม้ให้เน้นไปทางกล้วยและมะพร้าว น้ำดื่ม ขนมไม่มีส่วนผสมของไข่ ดอกไม้ บัว มะลิ ดาวเรือง หรือเท่าที่หาได้ และธัญพืช

ผู้คนเข้ามาสักการะบูชา

เทศกาลนวราตรี

ทั้งนี้ยังมีเทศกาลที่น่าสนใจ เป็นเทศกาลประจำปีที่เรียกว่า นวราตรี เป็นพิธีที่เก่าแก่โดยสืบเนื่องมาตั้งแตะสมัยพระเวท โดยจัดจัดขึ้นในช่วง 1-9 ค่ำเดือน 11 ของทุกปี พิธีจะมีขึ้น 9 วัน 9 คืน ในวันสุดท้ายจะมีการอัญเชิญองศ์พระแม่อุมาเทวีมาแห่รอบถนนอีกด้วยว่ากันว่า นี่เป็นงานที่พระแม่และขบวนเทพจะเสด็จมายังโลกเพื่อประทานพรแด่มนุษย์

หากสนใจไปไหว้พระสักการะกันที่วัดแขกสีลมแห่งนี้ เดินทางสะดวกมาก นั่งรถไฟฟ้า BTS มาเปลี่ยนสายเป็นสายบางหว้าที่สยาม แล้วลงที่สถานีสุรศักดิ์ เดินเข้าซอยมาอีกนิดก็จะถึงทันที หรือหากนำรถส่วนตัวมาอาจหาที่จอดไม่สะดวกนัก แนะนำให้เดินทางด้วยรถสาธารณะ

วันจันทร์ถึงพฤหัส เปิดเวลา 06:00-20:00 น. ส่วนวันศุกร์ เปิดเวลา 06:00-21:00 น. และเสาร์อาทิตย์ เปิด 06:00-00:30 น. สะดวกเวลาใดสามารถเข้ามาสักการะได้

Reference & Bibliography

  • สยามคเณศ รวมข้อมูล ความรู้ คาถา รูปภาพ และงานศิลปะ…ของพระพิฆเนศและองค์เทพพราหมณ์-ฮินดูไว้มากที่สุด. สืบค้นเมื่อ 8 เมษายน 2563, จาก http://www.siamganesh.com
  • วัดแขก (สีลม) วัดพระศรีมหาอุมาเทวี เรื่องควรรู้ก่อนไปสักการะ. Mthai. สืบค้นเมื่อ 8 เมษายน 2563, จาก https://travel.mthai.com/blog/91583.html
  • เรื่องต้องรู้ เทศกาลนวราตรี งานแห่พระแม่อุมา วัดแขก. ไทยรัฐออนไลน์. สืบค้นเมื่อ 8 เมษายน 2563, จาก https://www.thairath.co.th/lifestyle/woman/749491

Additional Information

ผลงานชิ้นนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา CJR411,JR413 Newspaper Workshop, CJR413,JR414 Magazine Workshop ภาคการศึกษาที่ 2/2562 คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ อาจารย์ที่ปรึกษา ผศ.ขจรจิต บุนนาค และผศ.ณรงค์ศักดิ์ ศรีทานันท์

Writer

การเขียนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ช่วยบรรยายความรู้สึก และการทำงานในแต่ละวันของเรา ยิ่งไปกว่านั้นการเขียนยังบอกถึงสไตล์ที่แตกต่างกันไปของแต่ละบุคคล ที่ไม่มีใครสามารถลอกเลียนแบบได้

Photographer

มีความฝันอยากเป็นช่างภาพ ได้ท่องเที่ยวไปเจอสิ่งใหม่ ๆ แต่เพิ่งได้พบว่าการเขียน เหมือนการได้พบสิ่งใหม่ และอยู่เพียงแค่ปลายปากกาของเราเท่านั้นเอง