ขับเคลื่อนชีวิตให้มีพลังด้วยอนิเมะดีต่อใจจากญี่ปุ่น ‘วิ่งไปกับสายลม’

ลองตื่นแต่เช้าออกไปวิ่งดูบ้างไหม คำถามที่อาจจะเคยถามตัวเอง แต่ก็ทำไม่ได้สักที ที่จริงการวิ่งคือกิจกรรมที่เรียบง่ายและงดงามของมนุษย์ เพราะไม่ได้ใช้อุปกรณ์อย่างอื่นเลย นอกจากพลังใจ พลังกาย และการอยู่กับลมหายใจของตนเอง หากจะบอกว่า ‘การวิ่ง’ สำหรับบางคนแล้วก็ไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อชัยชนะเพียงอย่างเดียว แต่เพื่อการเรียนรู้และการเติบโตไปเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์

วิ่งไปกับสายลม Kaze ga tsuyoku futeiru (Run with the Wind) คืออนิเมะเรื่องเยี่ยมจากประเทศญี่ปุ่น เขียนโดย ชิออน มิอุระ (Shion Miura) วาดภาพประกอบโดย อากิระ ยามากูชิ (Akira Yamaguchi) เผยแพร่ในรูปแบบหนังสือมังงะครั้งแรกเมื่อปีพ.ศ.2549 จากนั้นก็มีการผลิตเป็นภาพยนตร์เมื่อปีพ.ศ.2552 และซีรีส์โทรทัศน์อนิเมะเมื่อปีพ.ศ.2561 ตามลำดับ

เมื่อวันที่ออกฉาย หลายคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า วิ่งไปกับสายลม เป็นอนิเมะที่ทำให้เราเข้าถึงความงดงามของการวิ่ง ที่ไม่ได้เพียงเพื่อการแข่งขัน การเอาชนะกันเพียงอย่างเดียว ทว่าการฝึกฝนเรื่องวิ่งทำให้เรามีสุขภาพที่ดีขึ้นและสร้างมิตรภาพและเติมพลังใจในการมีชีวิตอยู่อีกด้วย

บางครั้งเราก็ไม่รู้ว่าเราอยากทำอะไร จนกว่าเราจะได้ลองทำสิ่งนั้นอย่างเต็มที่ คุราฮาะ คาเครุ เคยเป็นนักวิ่งมาก่อนตอนช่วงอยู่ชั้นมัธยม ด้วยปัญหาส่วนตัว ทำให้เขาไม่ได้ฝึกฝนการวิ่งอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งมาเข้าเรียนมหาวิทยาลัย ก็ได้พบกับรุ่นพี่ คิโยเสะ ไฮจิ โดยบังเอิญ เพราะเขาแอบลักลอบขโมยของในร้านสะดวกซื้อ แล้วก็วิ่งหนี รุ่นพี่เห็นแววความสามารถในการวิ่ง จึงชักชวนให้เขากลับมาวิ่งอีกครั้ง

การกลับมาวิ่งครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อลงแข่งขันในงานวิ่งครั้งใหญ่ที่มีชื่อว่า Hakone Ekiden เป็นงานประจำปีที่ทุกคนต่างใฝ่ฝันจะเข้าร่วม แต่ก็เป็นงานวิ่งสุดหินที่ท้าท้ายชีวิตการเป็นนักวิ่ง ทว่าคาเครุและผองเพื่อน ที่พักอาศัยอยู่หอของรุ่นพี่ไฮจิ ไม่มีใครอยากเข้าร่วมแม้แต่คนเดียว ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็หนีไม่พ้น เพราะรุ่นพี่หว่านล้อมจนทุกคนยอมเข้าร่วมแข่งขัน การอยู่หอเดียวกัน ทำให้พวกเขาได้ฝึกซ้อมวิ่งร่วมกัน และกลายเป็นสมาชิกของชมรมกรีฑาของมหาวิทยาลัยในทันที

เบื้องหลังของรุ่นพี่ไฮจิ ตัวเขาเองก็มีความฝันในการเป็นนักวิ่ง ก่อนหน้านี้เขาเคยเป็นนักวิ่ง แต่ก็ต้องหยุดพักความฝัน เพราะมีอาการบาดเจ็บที่ไม่หายสักที การกลับมาสานฝันในการวิ่งครั้งนี้ เขาจึงต้องการคนมาร่วมทางด้วยกัน คาเครุและเพื่อนอีกหลายคนก็ได้รับเลือกให้เข้ามาร่วมทีมวิ่งไปกับสายลมด้วยกัน

การนำเสนอเนื้อหาที่ชวนติดตาม ประกอบกับภาพที่สดใสไม่หดหู่ ลายเส้นชวนสบายตา โทนสีของภาพ และการดำเนินเรื่องที่ไม่เร่งรีบ แต่มีความต่อเนื่องจนรู้สึกหยุดดูไม่ได้ บรรยากาศทุกสิ่งภายใต้เรื่องราวที่ทำให้รู้สึกอบอุ่น เสมือนได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่เงียบสงบ มีเพียงสายลมพัดคอยมอบพลังชีวิต

เราจะได้เห็นถึงพัฒนาการของตัวละครที่ไม่เคยคิดสนใจการวิ่ง แต่กลับทุ่มเทสุดชีวิต ทำให้เราได้เรียนรู้ ขอเพียงลงมือทำอะไรก็ตามด้วยความตั้งใจ เราก็สามารถไปถึงเป้าหมายได้

วิ่งไปกับสายลม ยังทำให้หลายคนที่ท้อแท้กลับมามีความหวังในชีวิตในอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นความพยายามที่ไม่มีวันหมดของหนึ่งในตัวละครที่เป็นเพื่อนกับคาเครุ เขามีชื่อชื่อว่า คิชิวาซากิ อากาเนะ ถึงแม้จะดูอ่อนแอ ไม่เข้มแข็ง และได้รับฉายาว่าเจ้าชาย แต่ภายในใจกลับเปี่ยมไปด้วยพลังของการไม่ยอมแพ้ อากาเนะเคยพูดว่า “ที่ฉันพยายาม นั่นเพราะเป็นทางเดียวที่จะสามารถอยู่บนโลกใบนี้ได้” เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเหนื่อยแทบขาดใจแค่ไหน เขาก็ไม่เคยคิดยอมแพ้เลยสักครั้งเดียว ขาที่อ่อนล้าก็ยังวิ่งต่อไป ไม่หยุดแม้แต่ก้าวเดียว

การเดินทางอันยาวไกลมักจะมาพร้อมกับเสียงดนตรีที่สร้างพลังใจ เพลงประกอบเรื่องเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย หลายคนก็หลงใหลไปกับเพลงที่มีเนื้อหาปลุกปลอบให้คนมีกำลังใจ มีทั้งเพลงเปิดเรื่องและเพลงปิดเรื่อง

เพลงเปิดเรื่องที่ทำให้หลายคนรู้จักอนิเมะเรื่องนี้คือ Catch up, latency ของศิลปินกลุ่ม UNISON SQUARE GARDEN ที่มาด้วยสไตล์ป๊อปร็อคเบาสบาย ท่วงทำนองสดใส ส่วนเพลงปิดของเรื่องนี้อย่าง Reset ของศิลปินเสียงใสราวกับแก้วคริสตัล ไทจิ มุไค (Taichi Mukai) เป็นเพลงแนว R&B และ Soul ฟังสบาย

เพียงได้ฟังก็สามารถจับทำนองและร้องตามได้เลย แค่ท่อนแรกก็ไพเราะ เนื้อเพลงฟังแล้วทำให้มีพลังใจในการใช้ชีวิต พลาดพลั้งแค่ก็เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง สิ่งสำคัญคือต้องเริ่มจากการเปลี่ยนแปลงตนเองเสียก่อน ใครได้ฟังก็ต้องประทับใจมาก แถมมีกำลังใจลุกขึ้นสู้กับอุปสรรคที่อยู่ข้างหน้าอีก นับว่าเป็นเพลงที่ควรมีติดเครื่องเอาไว้เปิดฟังยามท้อใจ ยิ่งประกอบกับเนื้อหาของอนิเมะ ทำให้เข้ากันได้อย่างลงตัว

วิ่งไปกับสายลม จึงเป็นอีกหนึ่งผลงานที่สมบูรณ์แบบ สำหรับผู้ที่รักการเล่นกีฬา และหากกำลังมองหาอนิเมะอบอุ่นหัวใจ ดูเพลินแบบนี้ บอกเลยว่าห้ามพลาด ใครที่ยังหาเป้าหมายไม่เจอ ขาดความมั่นใจ และกำลังวิตกกังวลกับชีวิต อย่ารอช้าแล้วมาฟื้นฟูใจ เรียนรู้หาคำตอบความหมายของชีวิตไปพร้อมกัน เช้าวันพรุ่งนี้ “ลองออกไปวิ่งดูบ้างไหม”