ทีมงานจากเพจ Wake time story เผยได้นำแนวคิด นิทานก่อนนอน มาเป็นไอเดียในการสร้างเพจ โดยดึงวิธีคิดแบบฟุ้งกระจายและแบบพุ่งหาเป้า มาใช้ตกผลึกเนื้อหาที่อยู่ในเพจ พร้อมชี้แจงหลังโดนชาวเน็ตวิจารณ์ถึงภาพ ‘แผนที่ไฟไหม้ป่าออสเตรเลีย’ ที่ทางเพจได้เผยแพร่ว่าเป็นภาพปลอม เพจได้แก้ปัญหาโดยการลบภาพดังกล่าวเพื่อรอหลักฐานที่แน่ชัด และเผยถึงเป้าหมายในอนาคตหากการประกวดจบลง ทีมงานจะยังคงทำเพจเพื่อสร้างการรับรู้ให้คนในสังคมเสพสื่ออย่างมีสติต่อไป
เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 2562 ที่ผ่านมา Wake up media โครงการที่สนับสนุนให้เด็กและเยาวชนในสังคมร่วมสร้างสรรค์ เสพสื่ออย่างมีสติ เปิดเวทีรับสมัคร นักเรียน นักศึกษา ที่มีความคิดสร้างสรรค์ในด้านการสื่อสาร ร่วมส่งประกวดเพจ (Facebook Page) เพื่อชิงทุนและไปทัศนศึกษาในทวีปยุโรป โดยการแข่งขันปีนี้ นักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ สาขา Innovative and Media Production คณะนิเทศศาสตร์ ร่วมลงแข่งขันด้วย
![](https://baankluayonline.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/02.jpg)
โชติกา เหลืองกังวาลกิจ ผู้สร้างสรรค์เนื้อหาและผู้จัดการ เพจ Wake time story กล่าวว่า หลังจากสมัครเข้าร่วมประกวดกับทาง Wake up media แล้ว ตนเองและเพื่อนอีก 3 คนในทีม มีความเห็นที่ตรงกันว่าอยากทำเพจสื่อสาร โดยอิงแนวคิดจาก ‘นิทานก่อนนอน’ ที่เล่าเพื่อทำให้คนหลับ แต่พลิกกลับมาเป็นการเล่า ‘นิทานก่อนตื่น’ ที่เล่าแล้วจะทำให้คนตื่นขึ้นมาเห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่รอบตัว
โชติกา กล่าวต่ออีกว่า ขั้นตอนการทำงานในเพจเริ่มจากการสังเกตปัญหาที่เกิดขึ้นรอบตัวว่าเรื่องใดมีผลกระทบที่รุนแรงและเรื่องใดควรได้รับการแก้ไขให้เร็วที่สุด เมื่อได้ประเด็นที่ตกผลึกแล้วจะทำการค้นคว้าหาแหล่งข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อนำมาใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงให้ข้อมูลมีความน่าเชื่อถือมากที่สุด ต่อจากนั้นจะเริ่มกระบวนการผลิตงานภาพ งานวิดีโอ และนำมาใช้ประกอบตัวเนื้อหาเพื่อให้มีความน่าสนใจมากขึ้น หลังจากได้งานที่เสร็จสมบูรณ์ทั้งหมด ตนและทีมงานทุกคนจะมาตรวจสอบกันอีกรอบก่อนที่จะเผยแพร่ลงในเพจ
![](https://baankluayonline.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/03.jpg)
เป้าหมายของการสร้างเพจ Wake time story ขึ้นมาไม่ใช่เพียงแค่อยากส่งเข้าประกวดเท่านั้น แต่อยากทำให้คนในสังคมเกิดการตระหนัก ร่วมกันแสดงความคิดเห็นและเป็นกระบอกเสียงให้ปัญหาต่าง ๆ ที่ถูกหยิบยกขึ้นมาเล่าในเพจได้รับการแก้ไข และส่วนสำคัญที่สุดคือ อยากช่วยให้คนในสังคมเสพสื่ออย่างมีสติและรอบคอบมากขึ้น ผู้จัดการเพจกล่าว
ด้าน ณัฐกฤต พรพิสุทธิ์ ผู้ดูแลเกี่ยวกับด้านการผลิตประจำเพจ Wake time story เผยถึงเคล็ดลับการสร้างเนื้อหาว่า เพจได้นำวิธีการคิดแบบฟุ้งกระจาย หรือ Divergent thinking มาใช้ คือการให้ทุกคนในทีมเสนอไอเดียออกมา เมื่อได้ความคิดที่หลากหลาย จากนั้นถึงจะใช้วิธีการคิดแบบพุ่งหาเป้า หรือ Convergent thinking โดยนำความคิดของทุกคนมารวมกัน และตกผลึกออกมาเป็นเนื้อหาที่พร้อมจะเผยแพร่ไปยังหน้าเพจ
![](https://baankluayonline.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/04.jpg)
เจนนิเฟอร์ มิเชล อัลคาเฟล ตำแหน่งผู้วิจัยและป้อนข้อมูลให้กับ เพจ Wake time story กล่าวถึงจุดยืนของเพจที่แตกต่างจากเพจอื่นว่าโดยปกติเพจสื่ออื่น ๆ จะนำเสนอข้อมูลในรูปแบบของข่าวที่ค่อนข้างเข้าใจยาก แต่ทางเพจ Wake time story จะมีการปรับรูปแบบของภาษาที่ใช้ให้เหมือนการบอกเล่าจาก ‘เพื่อนสู่เพื่อน’ พร้อมกับข้อมูลที่มีครบถ้วนและรอบด้านโดยไม่ต้องไปหาเพิ่มเติมจากที่อื่น
![](https://baankluayonline.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/05.jpg)
ส่วน ชารีฟ ยังเจริญ ผู้รับผิดชอบดูแลงานอาร์ตและเลขาประจำเพจ Wake time story เผยถึงปัญหาที่พบเจอระหว่างการทำงานในเพจ โดยยกตัวอย่างกรณีภาพแผนที่ไฟไหม้ป่าออสเตรเลียที่ทางเพจได้ทำการโพสต์ และหลังจากนั้นมีชาวเน็ตออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับภาพดังกล่าวว่า ตัวภาพมีความชัดผิดปกติของภาพที่ถ่ายด้วยดาวเทียมจนเกิดเป็นกระแสว่า ภาพแผนที่ดังกล่าวเป็นภาพปลอมหรือเปล่า ทางเพจจึงตัดสินใจลบโพสต์ออกก่อนเพื่อหาหลักฐานที่แน่ชัดมาอ้างอิง
![](https://baankluayonline.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/06.jpg)
![](https://baankluayonline.bu.ac.th/wp-content/uploads/2020/02/07.jpg)
ชารีฟ กล่าวต่อว่า ภายหลังทางเพจได้รับข้อความจากคนรู้จักที่ทำงานอยู่กับเพจ space X โดยเขาได้ให้ข้อมูลยืนยันว่าภาพดังกล่าวเป็นภาพจริงเพียงแต่แหล่งอ้างอิงที่ทางเพจ Wake time story โพสต์ก่อนหน้านั้นผิด จึงได้ทำการลบและโพสต์ภาพดังกล่าวใหม่อีกครั้ง พร้อมชี้แจงถึงความผิดพลาดดังกล่าวให้คนในโลกออนไลน์ได้เข้าใจอย่างตรงกัน ถึงแม้ตนและทีมงานจะรู้สึกเสียดายที่ต้องลบโพสต์ดังกล่าวทิ้งในตอนแรกแต่ความถูกต้องของข้อมูลย่อมเป็นสิ่งที่ทีมงานตระหนักถึงมากที่สุด จากกรณีนี้ถือเป็นบทเรียนสำคัญที่ทำให้ตนและทีมงานคนอื่น ๆ มีความละเอียดรอบคอบในการทำงานมากยิ่งขึ้น และได้นำบทเรียนครั้งนี้ไปปรับใช้กับการทำงานครั้งต่อไปอีกด้วย
Additional Information
ผลงานชิ้นนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา CJR411,JR413 Newspaper Workshop ภาคการศึกษาที่ 2/2562 คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ อาจารย์ที่ปรึกษา ผศ.ขจรจิต บุนนาค