Live & Learn รักและเห็นคุณค่าในตนเอง ด้วยการสร้าง Self-Esteem

คนเราทุกคนมีดีในแบบของตัวเอง บางขณะเราอาจจะเคยคิดเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น อ่อนไหวต่อคำพูดด้านลบที่มากระทบใจ ทำให้รู้สึกไม่พอใจ ไม่เคารพในตัวเอง ยึดติดกับความสำเร็จมากเกินไป เเละไม่รู้จักให้อภัยตัวเองเมื่อเกิดความผิดพลาด สิ่งที่กล่าวมาอาจจะลดทอน Self-Esteem ของเราลงไป

Self-Esteem คือความภาคภูมิใจในตัวเอง เห็นคุณค่าในตัวเอง ยอมรับในตัวเอง ตระหนักรู้ โอบกอดตนเองทั้งในด้านบวกและด้านลบ

เราขอแนะนำเทคนิคเติมความสุข เติมคุณค่าให้หัวใจของเราแข็งแรงขึ้น เรียนรู้และสังเกตพฤติกรรมของตนเองทุกวัน จะทำให้เราสร้างความภูมิใจในตนเองได้ทีละเล็กทีละน้อย ทำให้เราใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นได้ด้วยความเข้าใจ

ไม่ว่าจะเป็นการเรียนหรือการทำงาน ในบางครั้งเราต้องรับมือกับความขัดแย้งที่ผ่านมาเข้ามาอย่างมีสติ ไม่ต้องกลบเกลื่อนความขัดแย้ง หรือหลีกหนีความขัดแย้ง เพียงรับมือกับความขัดแย้งด้วยใจที่มีสติ ตระหนักในรู้ลมหายใจเข้าออก การจัดการความขัดแย้งที่เกิดขึ้นตรงหน้าได้ จะทำให้เรายอมรับและเห็นคุณค่าในตนเองมากยิ่งขึ้น

บางครั้งการใช้ชีวิตก็ไม่ต้องซับซ้อนหรือยุ่งยากจนเกินไป ตื่นแต่เช้า อาบน้ำ แต่งตัว ช่วยงานที่บ้าน ขับรถไปเรียนหนังสือ เห็นคุณค่าของกิจกรรมที่ดูธรรมดาแต่เรียบง่ายเหล่านี้ ทำให้ใจเราไม่ฟุ้งซ่าน ไม่คิดเปรียบเทียบตนเองกับคนอื่น ใช้ชีวิตในแต่ละวันได้อย่างคุ้มค่า และทำเป้าหมายเล็ก ๆ ของตนเองได้สำเร็จในแต่ละวัน

ตั้งใจจะทำอะไรเพื่อตัวเองแล้ว ต้องให้เวลา ต้องรักษาคำมั่นกับตนเอง ไม่ต้องเป็นที่รักของคนอื่นเสมอไป ทำตามใจตัวเองบ้าง ถ้าวางแผนไว้ว่าจะไปเที่ยว ก็ลงมือเลย ไม่ต้องรอคนอื่น ไปเที่ยวตามใจที่เราอยากไป วางแผนวันเวลา สถานที่ แล้วทำอะไรให้กับตนเองบ้าง เพียงเท่านี้ก็เติมเต็มความภาคภูมิใจให้ตนเองได้แล้ว

ทำอย่างเต็มที่แล้ว จะล้มเหลว ไปไม่ถึงฝันบ้าง ก็ไม่เห็นเป็นไรเลย ทุกการลงมือทำ ทำให้เราได้เรียนรู้ทั้งนั้น เก็บเกี่ยวประสบการณ์ เรียนรู้จากความล้มเหลว แล้วเราจะทำได้ในสักวัน เปิดโอกาสให้ตนเองได้ล้มเหลว ไม่กลัวความผิดหวัง การลงมือทำหลายครั้ง ยิ่งทำให้เราได้พัฒนาตนเอง สร้างภูมิคุ้มกันในการใช้ชีวิตต่อไป อีกทั้งเวลาเจอคำติที่กระทบจิตใจ ให้คิดว่าไม่เป็นไร คนเราผิดพลาดกันได้ เดี๋ยวก็มีโอกาสให้แก้ตัวใหม่ได้

ถ้อยคำที่เราใช้สื่อสารมีความสำคัญ เราอาจจะเคยเผลอพูดเรื่องไม่ดีกับตนเอง พูดคำไม่สุภาพ รวมถึงอาจจะบังเอิญพูดกับคนอื่นด้วยคำที่ไม่ทันได้คิด เพราะต้องการหยอกเหย้า อยากให้คิดเสมอว่าคำพูดสำคัญ สะท้อนความคิด และตัวตนของเรา พูดกับคนรอบข้างด้วยคำที่สุภาพ จริงใจ และคุยกับตัวเองด้วยถ้อยคำเชิงบวก ชื่นชมตัวเองบ้าง ไม่ว่าเรื่องใหญ่เรื่องเล็ก คำพูดจะนำไปสู่การกระทำที่ดีงาม และช่วยเพิ่มการเห็นคุณค่าในตัวเองได้

ความรู้คืออำนาจ เป็นพลังในการเปลี่ยนแปลงโลก ทว่าในบางครั้ง เราก็อาจจะต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่เราไม่รู้ การรู้ว่าตัวเองไม่รู้ คือความรู้อย่างหนึ่ง ความไม่รู้ทำให้เรียนรู้ เปิดรับเรื่องใหม่เข้ามาได้อีกมากมาย การเรียนรู้สามารถพาเราไปพบกับโลกใบใหม่ เห็นความหลากหลาย ความแตกต่างของชีวิต ทำให้เราไม่ยึดตนเองเป็นศูนย์กลาง เมื่อนั้นความเชื่อมั่น การมองเห็นคุณค่าของตนเองก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

มองหาพื้นที่หรือเวทีในการแสดงความสามารถของตนเอง ความสามารถที่เรามีไม่จำเป็นต้องยิ่งใหญ่ เป็นเรื่องเล็กน้อยในชีวิตประจำวันก็ได้ เช่น การมีความจำดี การทำอาหาร การอ่านหนังสือ การสะสมโปสการ์ด เรื่องเหล่านี้ เราสามารถบอกให้คนอื่นรู้ได้โดยไม่อายใคร ชื่นชม ฝึกฝนความสามารถที่มีจะให้เรารู้สึกภาคภูมิใจในตนเองได้

การทำสิ่งใดตามแผนที่วางไว้มากจนเกินไป ก็ก่อให้เกิดความเครียดได้ ลองทำอะไรสนุก ๆ โดยที่อาจจะไม่ได้เตรียมตัวล่วงหน้า ไปเที่ยวก็ลองออกนอกเส้นทางดูบ้าง เราอาจจะเจอความสวยงามที่ไม่เคยนึกถึงมาก่อนก็ได้ ชีวิตเราแม้จะวางแผนไว้ล่วงหน้า แต่ก็มีสิ่งที่เกิดขึ้นโดยที่อาจจะไม่ได้วางแผนไว้ก็ได้ ปล่อยให้ตัวเองสนุกกับจังหวะชีวิต รับมือกับปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้น จะทำให้เรารู้ว่าตัวเราก็สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที และอาจจะค้นพบสิ่งที่ถนัดโดยที่เราไม่เคยนึกถึงมาก่อนก็ได้

หลายครั้งที่เรามองหาความสมบูรณ์แบบ จินตนาการถึงชีวิตที่สมบูรณ์แบบโดยได้ทุกสิ่งทุกอย่างมาอย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตามชีวิตจริงไม่มีใครสมบูรณ์แบบ แต่ทุกคนต้องมีความเชื่อมั่นในสิ่งที่ตนเองทำ รักและเห็นคุณค่าในความไม่สมบูรณ์แบบของตนเอง ใจเราจะมีความสุข พึงพอใจกับชีวิต ไม่กดดันตนเองมากจนเกินไป สุขก็รู้ ทุกข์ก็รู้ และใช้ลมหายใจเป็นเครื่องยึดเหนี่ยว เมื่อต้องรับมือกับความไม่สมหวังที่เกิดขึ้น

บางครั้งเราก็แสดงออกว่าเข้มแข็งจนเกินไป ไม่เคยอ่อนแอให้ใครเห็น ไม่ร้องไห้ ทั้งที่ใจเจ็บปวด การเก็บความรู้สึกไว้โดยไม่มีที่ระบายออก ก็ทำให้สุขภาพกายและใจของเราย่ำแย่ได้ หาพื้นที่ปลอดภัยให้ตนเองได้ปลดปล่อยความอ่อนแอ คนที่ไว้ใจ คนที่เชื่อใจได้ว่าเขาพร้อมจะสนับสนุนเรา เช่น คุณพ่อ คุณแม่ พี่น้อง ญาติผู้ใหญ่ หรือหากไม่มีเลย ก็อาจจะเป็นสัตว์เลี้ยงแสนรัก น้องหมา น้องแมว ที่เราสามารถแสดงความอ่อนโยนและอ่อนแอของเราได้

วิธีอื่นที่สามารถทำได้เพิ่มเติมคือการเขียนบันทึกหรือเขียนไดอารี่ ก็จะช่วยปลดปล่อยความรู้สึก เรียบเรียงเรื่องราวที่เราเผชิญออกมาเป็นตัวอักษร เขียนได้อย่างอิสระ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีคนมาคอยจับผิดเรา ขอให้เชื่อเสมอว่ายังมีใครสักคนที่พร้อมจะอยู่ข้างเราในวันที่เราอ่อนแอ อย่างน้อยตัวเราเองก็สามารถเยียวยารักษาหัวใจของตนเองได้เช่นกัน

ความเปลี่ยนแปลงคือธรรมดาของโลก ตั้งแต่เกิดจนจากโลกนี้ไป มนุษย์เราเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ความเปลี่ยนแปลงของร่างกาย จากเด็ก กลายเป็นหนุ่มสาว ไปจนกระทั่งสูงวัย ความเปลี่ยนแปลงทางจิตใจที่เราสามารถเรียนรู้และพัฒนาได้ ทำจิตใจให้มีภูมิคุ้มกัน รับมือกับความทุกข์และความสุขได้ด้วยใจเป็นกลาง ความเปลี่ยนแปลงทางสังคม ครอบครัว พ่อแม่ พี่น้อง เพื่อน คนรัก ทุกคนล้วนเปลี่ยนแปลงและเติบโตอยู่ทุกวัน ไม่ยึดติดกับอดีต เรียนรู้สิ่งที่ผ่านไปแล้ว เก็บไว้เป็นบทเรียน และเปิดใจเรียนรู้อนาคต พัฒนาตนเองให้มีทักษะใหม่อยู่เสมอ

ที่เราหยิบมาบอกเล่ากันเป็นเพียงส่วนหนึ่งของเทคนิคการสร้างความภาคภูมิใจให้กับตนเอง อย่าลืมว่าพลังใจในแต่ละวัน ไม่ต้องไปมองหาที่อื่นไกล เพราะเราสามารถสร้างได้ด้วยตนเอง ปรับเปลี่ยนวิธีคิด เชื่อมั่นในตนเองให้มากขึ้น เมื่อนั้นเราจะสามารถใช้ชีวิตต่อไปได้อย่างเข้าใจในความเป็นไปของโลกมากกว่าที่ผ่านมา

การปรับชุดความคิดสำคัญมากในการมี Self Esteem ที่ดี หากเห็นคุณค่าในตนเองได้อย่างแท้จริง แม้จะไม่ใช่คนที่ประสบความสำเร็จที่สุด รวยที่สุด หรือหน้าตาดีที่สุดก็อาจมีความสุขที่สุดได้เช่นกัน