ความงดงามบนเรือนร่างที่สะกดสายตาผู้ชม แต่งเติมด้วยสีสันอันหลากหลาย เสื้อผ้า หน้าผม รูปร่าง ทรวดทรง และความมั่นใจจากภายในที่ทรงพลัง นี่คือการสร้างสรรค์งานศิลปะรูปแบบหนึ่งที่เราเรียกกันว่า Drag Queen เรียกทับศัพท์เป็นภาษาไทยว่า แดร็กควีน มาจากคำว่า Dressed Resembling As a Girl แดร็กควีนมีที่มาที่ไปอย่างไร มาติดตามเรื่องราวที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจและความงดงามที่ทรงพลังนี้ไปพร้อมกัน

นิยามของแดร็กควีน ผู้รังสรรค์งานศิลป์สื่อตัวตนอย่างมีเอกลักษณ์

ความเป็นมาของแดร็กควีน หลายคนคงสงสัยตั้งแต่ชื่อที่เรียก คำว่า แดร็ก (Drag) เปรียบได้กับศิลปะในการแต่งตัวรูปแบบหนึ่ง ที่นำเสนออย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดดเด่น สร้างการจดจำ หากจะให้ยกตัวอย่างก็คือ เลดี้กาก้า หนึ่งในศิลปินที่สื่อความหมายของคำนี้ให้เห็นภาพได้ดีที่สุด เพราะเรามักจะจดจำเธอในคาแรคเตอร์สุดล้ำและจัดเต็มในเวลาทำงาน แต่หารู้ไม่ว่าในชีวิตประจำวัน เธอก็จะแต่งตัวแบบชิล สบาย ไม่เยอะมาก

ขณะที่คำว่า แดร็กควีน ย่อมาจากคำเต็มคือ Dressed Resembling As a Girl เป็นการอธิบายถึงผู้ที่นิยามตนเองว่าเป็นชาย ทว่าแต่งตัวเป็นหญิง รวมไปถึงเกย์ ชายรักชายที่แต่งเป็นหญิงเช่นกัน อย่างไรก็ตามการเป็นแดร็กควีนไม่ได้มีข้อจำกัดว่าต้องเป็นเพศใดหรือมีรสนิยมใด ขอแค่มีใจรักก็สามารถแต่งตัวแบบจัดเต็มได้เช่นกัน ในทางตรงกันข้ามหากผู้ที่เรียกตัวเองว่าเป็นหญิง แต่แต่งกายเป็นชายแบบจัดเต็ม ก็จะเรียกว่าเป็น แดร็กคิง ได้เช่นกัน อีกส่วนหนึ่งที่เรียกตัวเองว่าทรานส์เจนเดอร์ที่แต่งเป็นแดร็กจะเรียกว่า ไบโอควีน

Drag queen of mexico city. Her instagram @mikaela.brava

ความงดงามที่สร้างสรรค์ในการแต่งแดร็กควีนมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความรื่นรมย์ให้กับผู้ชม ทั้งการร้อง การเต้น การเล่นละคร รวมถึงการพูดเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ลีลา ลูกเล่น ท่าทาง น้ำเสียง จึงเป็นองค์ประกอบที่ทำให้แดร็กควีนมีชีวิตโลดแล่นอย่างสมบูรณ์แบบ อลังการ เว่อร์วัง เพื่อพาผู้ชมเข้าสู่โลกแห่งจินตนาการ ทำให้พวกเขามีความสุข

เรียนรู้และฝึกฝนเพื่อเป็นแดร็กควีนที่สมบูรณ์แบบ

การเป็นแดร็กควีนที่ทรงคุณค่าต้องผ่านการฝึกฝน เรียนรู้ ต้องพัฒนาทักษะรอบด้าน ทั้งความคิดสร้างสรรค์ในการตัดเย็บเสื้อผ้า การเลือกจับคู่สีให้มีความน่าสนใจ การแต่งหน้าทำผมที่จะมีทักษะแค่ระดับพื้นฐานไม่ได้ ทว่าต้องรู้จักการนำศิลปะนั้นมาใช้บนเรือนร่างตัวเอง เพื่อสร้างความโดดเด่น แปลกใหม่ และสร้างคาแรกเตอร์ที่ไม่ซ้ำใคร

อีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้คือการออกแบบงานโชว์ ที่ต้องประกอบไปด้วยทักษะการร้อง เต้น แสดง ลิปซิงค์ หรือแม้แต่ทาเลนท์โชว์ ที่ต้องพรีเซนต์แนวคิดให้สอดคล้องกับลุคของตนเอง ทำให้ผู้ชมตื่นตาตื่นใจ ตกตะลึงจนตกเก้าอี้ เห็นอย่างนี้กว่าแดร็กควีนจะสามารถผลิตผลงานชิ้นหนึ่งออกมาได้ ต้องใช้ทุนทรัพย์เป็นจำนวนมาก ดังนั้นการจะเป็นแดร็กควีนได้ คุณจะต้องมีใจรักในความเป็นแดร็กและมุ่งมั่นที่จะรังสรรค์ผลงานใหม่ให้ชาวโลกตื่นตะลึง เรียกได้ว่าพวกเธอ Drag Queen ก็คือศิลปินท่านหนึ่ง ที่มีความมาดมั่นอย่างสุดพลังอัดแน่นอยู่ในทุกอณูผลงาน

แดร็กควีนในวันวาน เป็นตำนานในประวัติศาสตร์

มองย้อนกลับไป แดร็กควีนไม่ได้ถือกำเนิดเมื่อไม่นานมานี้ แต่มีที่มาจากประวัตศาสตร์ ลองย้อนไปเมื่อศตวรรษที่ 17 ในประเทศอังกฤษ วิภาดา รัตนดิลก ณ ภูเก็ต และดีอนา คาซา (2563) อธิบายว่าโรงละครโกลบของคณะ Lord chamberlain เป็นคณะละครของวิลเลี่ยม เช็คสเปียร์ ผู้หญิงจะไม่ได้อนุญาตให้ทำการแสดงด้วยเหตุผลทางศาสนา นักแสดงชายส่วนหนึ่งจึงต้องแต่งหน้าเพื่อรับบทบาทตัวละครหญิง และถูกเรียกว่า Drag ต่อมาคำว่า Drag จึงถูกผนวกเข้ากับคำว่าควีน เป็นผลให้คำว่า Drag Queen กลายเป็นคำนิยามของผู้ชายที่แต่งตัวเป็นผู้หญิงเพื่อการแสดง

เหตุการณ์สำคัญอีกส่วนหนึ่งที่สร้างปรากฎการณ์ Drag Queen คือการที่ชาว LGBTQ ไม่ได้รับการยอมรับเมื่อปีค.ศ.1960 พวกเขาจึงต้องรวมตัวเพื่อสร้างความเข้มแข็ง และใช้การแต่งกาย การแสดงโชว์ ร้อง เล่น เต้น เพื่อบ่งบอกความเป็นตัวตน ทำให้ในช่วงค.ศ.1970 พวกเขาเริ่มได้รับการยอมรับมากขึ้น จากที่เคยต้องปกปิดก็เริ่มเปิดเผยสู่สายตาสาธารณะ

ช่วงเวลายามค่ำคืนเป็นอีกช่วงเวลาหนึ่งที่พวกเขาได้ปรากฏกายสู่สังคม มีการแสดงหลากหลายรูปแบบ แม้จะเป็นเพียงความนิยมในหมู่กลุ่มคนขนาดเล็ก ทว่าในเวลาต่อมาก็เริ่มได้รับความสนใจ จนมาถึงค.ศ.2010 แดร็กควีนเริ่มเฉิดฉายในเวทีสื่อกระแสหลัก ทำให้ผู้คนได้รู้จักตัวตนของ Drag Queen

RuPaul Andre Charles

การนำเสนอผ่านสื่อทำให้แดร็กควีนมีตัวตน อย่างเช่นในสหรัฐอเมริกา แดร็กควีนที่มีชื่อเสียง เป็นที่จดจำของคนทั่วโลกคือ RuPaul Andre Charles เธอมีความสามารถรอบด้าน เป็นทั้งนักแสดง นางแบบนักร้อง นักแต่งเพลง ผู้ดำเนินรายการ และนักเขียน รวมถึงเป็นเจ้าของรายการสุดฮอต RuPaul’s Drag Race เขาเป็นคนที่ทำให้คนทั่วโลกหันมาสนใจแดร็กควีนและทำให้เหล่าแดร็กควีนภาคภูมิใจในตนเอง

การเติบโตทางความคิดของคนในสังคม

การเติบโตของแดร็กควีนไม่ใช่เพียงการพัฒนาโชว์ เสื้อผ้า หน้าผม เครื่องแต่งกายในงดงามเพียงอย่างเดียว ทว่าเป็นการยกระดับวิธีคิดที่คนในสังคมมีต่อเรื่องเพศสภาพ ก้าวข้ามตัวตนภายนอกและยอมรับกันและกันในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง

ขณะที่ในประเทศไทย วงการแดร็กควีนก็มีการเติบโตและพัฒนาไปอย่างมาก มีผู้คนที่ได้รับการจดจำในฐานะแดร็กควีน พวกเขาภาคภูมิใจในตนเอง และพร้อมจะประกาศความเป็นตัวตนที่ได้รับการยอมรับจากสังคม หนึ่งในนั้นคือรายการ Drag race Thailand ที่รวบรวมคนที่มีใจรักในการเป็น Drag Queen ให้พวกเขามีพื้นที่ในการแสดงตัวตน ข้อจำกัดเรื่องเพศสภาพจึงเป็นเรื่องสำคัญในสังคมไทยที่ต้องเรียนรู้เพื่อก้าวให้พ้นเส้นขอบฟ้าทางความคิด และเปิดรับความหลากหลายทางเพศสภาพที่เลื่อนไหลและเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา

แดร็กควีนคืองานศิลปะที่ให้ความบันเทิงกับผู้คนแล้ว ยังสะท้อนถึงการต่อสู้ทางความคิดเพื่อเปิดพื้นที่ให้กับความหลากหลายทางเพศ เป็นการทำให้เราเรียนรู้ที่จะรักตัวเอง มั่นใจในสิ่งที่ทำ ทุกคนมีคุณค่าในแบบของตัวเอง เพราะหัวใจของการเป็นแดร็กควีน คือการรักในศิลปะ การรักตัวเอง และรักการในแสดงความเป็นตัวตนที่เต็มไปด้วยความมั่นใจและภาคภูมิใจในความเป็นมนุษย์ของตนเอง แดร็กควีน (Drag Queen) คือศิลปินทรงพลัง ผู้รังสรรค์งานศิลป์บนเรือนร่าง และยกระดับความเท่าเทียมกันในสังคม

Reference & Bibliography

Additional Information

ผลงานชิ้นนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา JR413 Newspaper Workshop, JR414 Magazine Workshop, JR303 Convergence Journalism Editing ภาคการศึกษาที่ 2/2564

Writer

มีแฟนไม่ได้แปลว่าสวย beautiful ต่างหากที่แปลว่าสวย

Writer

สาวน้อยผู้อ่อนโยน

Writer

นักฝัน นักพูด นักเขียน ผู้รักการถ่ายทอดอารมณ์ในหลากรูปแบบ แม้เขาจะเพิ่งก้าวสู่วงการนักเขียนเพียงไม่ถึงปี แต่อย่างไรโลกนี้ก็ยังมีอะไรให้เขาได้เรียนรู้อีกมากนัก