ราวเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี คือช่วงเทศกาลสำคัญของชาวจีน รู้จักกันในชื่อว่า เทศกาลตรุษจีน (Chinese New Year Festival) เป็นวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีน แม้กระทั่งชาวไทยที่ไม่มีเชื้อสายจีนก็ต่างตั้งตารอคอยเทศกาลนี้เช่นกัน เพราะนี่คือช่วงเวลาของการพบปะญาติมิตร โอกาสของการไหว้บรรพบุรุษ เฉลิมฉลองอย่างพร้อมหน้าพร้อมตากันในครอบครัว

เคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมวันตรุษจีน ถึงต้องมีการจุดประทัด และทำไมเขาต้องแต่งกายด้วยชุดสีแดงหรือประดับประดาดวงไฟด้วยสีแดง ? ติ๊กต๊อก ๆ ยังคิดไม่ออกใช่ไหม ? เราจะพาทุกคนไปร่วมค้นหาคำตอบของเรื่องราวที่เป็นระดับตำนาน และนี่คือเรื่องราวและความเป็นมาของข้อสงสัยที่ว่านั้น

รู้จักปีศาจเหนียนสุดโหด

ย้อนไปในสมัยโบราณเขาว่ากันว่า มีปีศาจในตำนานจีนที่เลื่องชื่ออย่าง ตัวเหนียน 年 (nían) ปัจจุบันนี้ความหมายในภาษาจีน แปลว่า ปี สมัยก่อน เหนียน เป็นชื่อของสัตว์ร้ายชนิดหนึ่ง ที่มีขนาดตัวใหญ่ยักษ์ ลักษณะคล้ายมังกรผสมสิงห์โต หัวมีขนรุงรัง มีสี่เท้า มีเขาเป็นอาวุธอยู่บนหน้าผากและเขี้ยวที่แหลมคม มีนิสัยดุร้าย น่าเกรงขาม อาศัยอยู่ใต้ท้องทะเลลึก มักจะออกมาอาละวาดในเวลากลางคืน มันจะทำร้ายผู้คน สัตว์เลี้ยง สิ่งมีชีวิต และพืชพันธุ์อาหารของชาวบ้านอยู่เป็นประจำ เมื่อฟ้าสางมันจะกลับลงไปยังท้องทะเล

ความน่ากลัวของมัน ทำให้เทพเจ้าสั่งลงโทษด้วยการสาปให้เหนียนสามารถปีนขึ้นฝั่งจากท้องทะเล ได้เพียงปีละหนึ่งครั้งเท่านั้น โดยจะออกมาหลังวันเปลี่ยนฤดูหนาวเป็นฤดูใบ้ไม้ผลิ หรือก่อนวันตรุษจีนหนึ่งวันนั่นเอง เจ้าตัวเหนียนมักจะจับเด็กและสัตว์เลี้ยงกินเป็นอาหาร ส่วนผู้ใหญ่ที่หนีมันไม่ทัน ก็จะตกเป็นเหยื่อ ดังนั้นเมื่อถึงวันสิ้นปีของทุกปี ผู้คนจะรีบอพยพออกจากหมู่บ้านเข้าไปในป่าหรือหุบเขาลึก เพื่อหลบซ่อนตัวไม่ให้ปีศาจเหนียนมาทำร้าย

ตำนานค่ำคืนสุดท้ายของปี

ตามตำนานเล่าว่า มีอยู่ปีหนึ่ง ณ หมู่บ้านอันเงียบสงบ คืนก่อนวันตรุษจีน ชาวบ้านกำลังเตรียมอพยพเก็บข้าวของพร้อมสัตว์เลี้ยงของพวกเขาเหมือนทุกปี ท่ามกลางความชุลมุนของผู้คนที่เร่งรีบ มีชายสูงวัยขอทานคนหนึ่ง ปรากฏตัวขึ้นในหมู่บ้าน เขามีผมหนวดเคราสีเงิน หน้าตาสดใส ดวงตาเป็นประกาย แต่งกายด้วยเสื้อผ้าขาด สะพายเป้เก่า ถือไม้เท้า เดินเข้ามาในหมู่บ้าน และขออาหารจากผู้คน แต่ชาวบ้านกำลังวุ่นกับการเก็บของหนีปีศาจร้าย จึงไม่มีใครสนใจเขาเลย ชายอายุมากเดินไปเรื่อย จนถึงบ้านหญิงสูงวัยคนหนึ่งที่กำลังเตรียมออกจากบ้าน แต่ด้วยความสงสาร เธอจึงนำข้าวปลาอาหารมาให้ชายสูงวัยรับประทาน

ชายสูงวัยจึงถามหญิงเจ้าของบ้านว่าจะไปไหนกัน เธอตอบว่ากำลังหนีตัวเหนียน และบอกต่อว่า ท่านก็ควรรีบหนี เพราะตกดึก มันจะออกอาละวาด ชายสูงอายุอมยิ้ม พร้อมกล่าวกับหญิงสูงวัยว่า สบายใจได้ หากเธอยอมทิ้งบ้านให้ฉันดูแล หรือค้างที่นี่หนึ่งคืน รับรองว่าในหมู่บ้านนี้จะปลอดภัย

เมื่อหญิงผู้ใจดีได้ยินดังนั้น ก็รู้สึกประหลาดใจ แต่ยังไม่ปักใจเชื่อมากนัก ทว่าเธอจึงตัดสินใจให้ชายแปลกหน้าเฝ้าบ้านให้ พร้อมทิ้งท้ายบอกกับเขาว่า หากท่านเห็นสถานการณ์ไม่ดี ขอให้รีบหนีเอาชีวิตรอด ไม่ต้องเฝ้าบ้านให้ฉันหรอก กล่าวเสร็จก็รีบเดินทางขึ้นเขาไปกับคนอื่นในหมู่บ้านทันที

วิธีปราบตัวเหนียน

ตกเย็นหมู่บ้านเงียบสงบไร้ผู้คน เหลือเพียงชายสูงวัยขอทานที่อาศัยอยู่ในบ้านของหญิงผู้ใจดี และมีชาวบ้านบางส่วนที่ไม่ได้อพยพหนีไปไหน ต่างพากันปิดบ้านล็อคประตูอย่างแน่นหนา ปิดไฟเงียบ ไม่หลับไม่นอน ไม่ออกจากบ้าน ตกดึกถึงเวลาที่ปีศาจเหนียนออกอาละวาด มันตรงมายังหมู่บ้านแห่งนี้ แต่กลับพบว่า บรรยากาศในหมู่บ้านไม่เหมือนกับทุกปี เพราะมีบ้านหลังหนึ่งมีแสงไฟสว่างเตะตามัน นั่นคือบ้านของหญิงสูงวัยผู้ใจดีนั่นเอง เมื่อเหนียนเห็นภาพดังกล่าว ก็พยายามวิ่งพุ่งเข้าชนบ้านด้วยความโกรธ

ขณะที่มันวิ่งมาถึงหน้าบ้านของหญิงสูงอายุ ก็ต้องหยุดผงะ เพราะสิ่งที่เห็นคือทั้งสองฝั่งของประตูหน้าบ้าน มีกระดาษสีแดงเขียนกลอนคำขวัญคู่ แปะไว้ เมื่อมองไปอีกด้าน ก็เห็นแท่งเทียนสีแดงจุดไฟสว่างไสวนับสิบดวง ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงบางอย่างที่กำลังเผาไหม้แล้วเกิดเสียงดัง ปั้ง! ปั้ง! ปั้ง! นั่นคือเสียงของการเผาไม้ไผ่ เพราะในกระบอกไม้ไผ่มีอากาศ เมื่อเจอกับความร้อน ทำให้ปล้องไม้ไผ่แตกออกเกิดเป็นเสียงดังขึ้นมา

เหนียนตัวสั่น เริ่มกรีดร้องโหยหวน ด้วยความหวาดกลัว สักครู่ประตูบ้านของหญิงสูงอายุค่อย ๆ เปิดออก มันพบกับชายสูงวัยที่แต่งกายด้วยชุดสีแดง ยืนหัวเราะเยาะเย้ย ด้วยความสะใจ เหนียนตกใจกลัวสุดขีด จนต้องรีบเผ่นหนีออกจากหมู่บ้านไป และไม่กลับมาอาละวาดอีกเลย

จุดอ่อนของปีศาจเหนียนคือความลับสวรรค์

เช้าวันรุ่งขึ้นของวันตรุษจีน ขณะที่ชาวบ้านกำลังเดินทางกลับเข้ามายังหมู่บ้าน ชายสูงวัยกลับหายตัวไปอย่างลึกลับ เมื่อหญิงสูงวัยน้ำใจงาม เจ้าของบ้านกลับไปดูบ้านของตน ก็พบว่าสิ่งของทุกอย่างอยู่เป็นปกติไม่ได้ถูกทำลาย หรือมีการต่อสู้แต่อย่างใด ส่วนผู้คนในละแวกนั้นที่ไม่ได้อพยพ ก็ยังอยู่กันอย่างปลอดภัย หลายคนจึงเกิดความสงสัยว่า เป็นไปได้อย่างไร

สิ่งที่เธอพบหลังจากเหตุการณ์คือว่าบ้านของตนมีร่องรอยของการจุดเทียนอยู่เต็มบ้าน มีเสื้อผ้าสีแดงถูกถอดทิ้งเอาไว้ หน้าบ้านมีโคมไฟสีแดงห้อยอยู่ ที่บานประตูมีกระดาษแดงกลอนคำขวัญคู่ แปะไว้ และมีกองเศษซากไม้ไผ่ที่ถูกเผาไหม้เกลื่อนบ้านเต็มไปหมด

หญิงสูงอายุเห็นสิ่งดังกล่าวทำให้นึกคิดได้ว่าต้องเป็นฝีมือของชายขอทานคนนั้น เธอจึงรีบนำเรื่องนี้ไปบอกเล่าให้คนในหมู่บ้านฟัง หลายคนเชื่อว่าชายหนวดเคราเงิน ขอทานผู้นั้น เป็นเทพเจ้า ที่แปลงกายลงมาจากสวรรค์ เพื่อมาช่วยเหล่ามนุษย์ให้รอดพ้นภัยอันตรายจากตัวเหนียนนั่นเอง และเมื่อพ้นคืนสิ้นปีได้อย่างปลอดภัย ชาวบ้านต่างออกมาฉลองปีใหม่กันอย่างคึกคัก แลกเปลี่ยนอาหาร พบปะญาติสนิทมิตรสหาย รวมทั้งอวยพรต่อกันและกัน

สีมงคลช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย

เรื่องราวในวันนั้นเป็นต้นมา ผู้คนจึงเริ่มรู้จุดอ่อนหรือธรรมชาติของตัวเหนียนว่ามันหวาดกลัว 3 สิ่งนี้ คือ สีแดง แสงไฟ และเสียงดัง ที่สำคัญความเชื่อนี้เป็นที่มาของการจุดประทัดในช่วงเทศกาลตรุษจีน เมื่อถึงวันสิ้นปีอีกครั้ง ผู้คนในหมู่บ้านต่างพากันออกมาประดับบ้านเรือนหรือสถานด้วยสีแดง ทั้งทาสีบ้านติดม่านเป็นสีแดงทั้งหลัง ติดกลอนคำขวัญคู่หน้าบ้าน แขวนโคมแดง สวมเสื้อผ้าสีแดง และจุดประทัดกันสนั่นหวั่นไหว พร้อมเฉลิมฉลองกันอย่างมีความสุข

สีแดง กลายเป็นสีที่เชื่อว่า เป็นสีมงคล เปรียบเสมือนการขับไล่ปีศาจสิ่งชั่วร้ายออกไป และเป็นขนบธรรมประเพณีของชาวจีน ที่ลูกหลานต่างสืบทอดต่อกันมาถึงทุกวันนี้ อีกทั้ง คนจีนยังเรียกการฉลองตรุษจีนอีกอย่างหนึ่งว่า กั้วเหนียน 过年 แปลว่าอยู่เฝ้าคืนวันสุดท้ายของปี ที่มาจากตำนานนี้นั่นเอง

เป็นอย่างไรกันบ้างเอ่ย หายสงสัยกันแล้วใช่ไหมล่ะว่าที่มาของการจุดประทัดประดับโคมไฟเกิดขึ้นได้อย่างไร และหากเพื่อนคนไหนเคยไปเที่ยววัดที่มีเชื้อสายจีนก็อาจจะเริ่มคุ้นกับตัวเหนียนกันบ้างแน่นอน เพราะจะมีรูปปั้นของเหนียนประดับอยู่รอบวัดมากมาย และสำหรับตรุษจีนปีนี้ ขออวยพรให้พี่น้องทุกคน ปัง ๆ เฮง ๆ ทั้งเรื่องงาน เรื่องเรียน และทุกเรื่องตลอดปีตลอดไปให้เหมือนกับเสียงของประทัดเลย จ้าย เจี้ยน 再见 แล้วพบกันใหม่น้า!

Reference & Bibliography

  • เหนียนโซ่ว ตอนที่ 8-เรื่องเล่าเทศกาลตรุษจีนกับหงหล่าวซือ. สืบค้นเมื่อ 28 มกราคม 2565, จาก https://youtu.be/r5ma_Ri_U9c
  • Legend Of Nian 年 Chinese New Year. สืบค้นเมื่อ 28 มกราคม 2565, จาก https://youtu.be/giYX7bkzW98
  • ตำนานปีศาจตรุษจีน. สืบค้นเมื่อ 28 มกราคม 2565, จาก https://www.thairath.co.th/content/232354
  • Chinese story of Nian. สืบค้นเมื่อ 28 มกราคม 2565 จาก, https://en.wikipedia.org/wiki/Nian
  • ตำนานปีศาจ “เหนียน” ต้นกำเนิดการจุดประทัดในวันตรุษจีน. สืบค้นเมื่อ 28 มกราคม 2565, จาก https://bit.ly/3uFuNIy
  • ขอขอบคุณภาพหน้าปกประกอบเรื่อง Photo by note thanun on Unsplash
  • ขอขอบคุณภาพประกอบ Pexels: Free Stock Photos www.pexels.com
  • ขอขอบคุณภาพประกอบ Unsplash: Beautiful Free Images & Pictures www.unsplash.com
  • ขอขอบคุณภาพประกอบ Freepik: Free Vectors, Stock Photos & PSD Downloads www.freepik.com

Additional Information

ผลงานชิ้นนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา GE005 Creative Leadership Skills, GE006 Asia and the Global Community, CA111 Introduction to Public Relations, BR404 Broadcasting Project ภาคการศึกษาที่ 2/2564

Writer

คติประจำใจ The only way to do great work is to love what you do-Steve Job

Writer

ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น ขอแค่ขยันและอดทน

Illustrator

ไม่ลองดูก่อนล่ะ ? เวลาลงมือทำเรื่องที่อยากทำ เขาก็เริ่มกันแบบนี้ทั้งนั้นแหละ : D