สักครั้งในชีวิตกับการเดินป่าศึกษาธรรมชาติ เดินเท้าขึ้น อุทยานแห่งชาติภูลังกา ตามรอยตำนานพญานาคอันศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับการบอกเล่าสืบทอดมาอย่างยาวนาน
ถ้ำนาคา ตั้งอยู่ที่อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ และถ้ำนาคี ตั้งอยู่ที่อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม โดยอุทยานแห่งชาติภูลังกาครอบคลุมพื้นที่สองจังหวัดที่กล่าวมา หลายคนมาด้วยแรงศรัทธา เพราะต้องการสัมผัสความงามของทั้งสองถ้ำที่เป็นสถานที่ขึ้นชื่อในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ที่พาให้ผู้คนเดินทางมาเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติภูลังกา
พวกเราขอแบ่งปันบอกเล่าเรื่องราวของ ถ้ำนาคาและถ้ำนาคี จากประสบการณ์ที่ไปสัมผัสมาด้วยตนเอง มาติดตามความงดงามของถ้ำนาคาและถ้ำนาคีไปด้วยกัน
เตรียมตัวขึ้นอุทยานแห่งชาติภูลังกา
เราวางแผนการเดินทางล่วงหน้า โดยการจองนัดหมายกับอุทยานแห่งชาติภูลังกา จากนั้นพวกเราเลือกออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิมายังสนามบินอุดรธานีใช้เวลาหนึ่งชั่วโมง หลังจากลงเครื่องที่สนามบินอุดรธานี พวกเรานั่งรถตู้ที่จองไว้แล้ว เพื่อเดินทางไปจังหวัดบึงกาฬก่อนเป็นอันดับแรก ด้วยระยะทาง 180 กว่ากิโลเมตร ใช้เวลาถึง 3 ชั่วโมงเลยทีเดียว ผู้ที่จะมาควรเตรียมสัมภาระและเสบียงอาหารที่ไม่มากนัก เพื่อไม่เป็นภาระต่อการจัดกระเป๋าขึ้นถํ้านาคาและถ้ำนาคี
ถ้ำนาคา ความงามที่เลื่องลือ
ยามเช้าพวกเราออกจากโรงแรมที่พักเวลาประมาณแปดโมงครึ่ง ถึงที่อุทยานประมาณเก้าโมงเช้า จากนั้นเราก็ต้องทำตามมาตราการคือแสดงประวัติการรับวัคซีนต่อเจ้าหน้าที่ แจ้งจำนวนคนร่วมเดินทาง แสดงบัตรประชาชน เพื่อแสดงตัวตน และพบเจอกับพี่ผู้นำทางที่จะทำหน้าที่ไปกับเราในวันนี้
การเดินทางสู่ถํ้านาคามีระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ที่มีอุปสรรคและขวากหนามจำนวนมาก ฝึกความอดทนได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการทรงตัว การปีนบันไดที่มีสลับกันไปเป็นระยะ เพราะฉะนั้นควรใส่รองเท้าผ้าใบที่เดินสบายเท้าที่สุด ระยะเวลาที่ใช้ในการเดินทางขึ้นสู่จุดสูงสุด รวมไปกลับใช้เวลาประมาณ 4-6 ชั่วโมง
สิ่งที่ควรเตรียมพร้อมสำหรับผู้ที่จะมาเยือนถํ้า คือกระเป๋าเป้หนึ่งใบบรรจุเฉพาะสิ่งของจำเป็น ได้แก่ นํ้าสองขวด ครีมกันแดด อาหารรองท้อง ถุงมือ และโทรศัพท์มือถือไว้ถ่ายภาพ เพราะการเดินป่าขึ้นไป ต้องใช้ทั้งแรงกายและแรงใจ นํ้าและอาหารเป็นปัจจัยสำคัญที่จะพาเราไปถึงจุดหมายได้
โดยเฉพาะถุงมือ เป็นสิ่งจำเป็น เพื่อป้องกันการสัมผัสความงดงามของหินโดยตรง และป้องกันมือของเราได้รับการบาดเจ็บ ส่วนครีมกันแดดช่วยป้องกันแสงแดดอันร้อนแรงในช่วงเวลาเที่ยงวัน
ตำนานเรื่องเล่าพญานาคในบริเวณนี้ หลายคนที่สนใจคงพอจะได้ยินมาบ้างว่า เป็นเรื่องราวความรักของมนุษย์กับพญานาคที่ไม่สามารถครองรักกันได้ ส่งผลทำให้บ้านเมืองในพื้นที่นี้ล่มสลายกลายเป็นบึงโขงหลงอย่างทุกวันนี้
ตามตำนาน พระเจ้าอือลือ ผู้ปกครองเมืองก็ได้ถูกสาปให้กลายเป็นพญานาคเฝ้าอยู่บึงโขงหลง จนกว่าจะมีเมืองใหม่ถือกำเนิดขึ้นจึงล้างคำสาปได้ และในปี พ.ศ.2554 ประเทศไทยก็ได้จัดตั้งอำเภอบึงกาฬ เป็นจังหวัดบึงกาฬ ไม่กี่ปีที่ผ่านมา ถํ้านาคาได้ถูกค้นพบขึ้นและมีผู้คนจำนวนมากไหลหลากมาสักการะที่แห่งนี้ เพราะถึงเวลาแล้วที่ท่านจะปรากฎให้มนุษย์เห็นและถึงเวลาล้างคำสาปของท่าน
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายตำนานที่บอกเล่า ทุกเรื่องเล่าของที่นี่พวกเราเปิดใจรับฟังเพื่อเรียนรู้ที่มาของความมหัศจรรย์และความงดงามของทั้งสองถ้ำ ที่เราเดินทางไปเยือนในคราวเดียวกัน
ความคุ้มค่าที่มาเยือนคือความงามของธรรมชาติ
เมื่อเราเดินขึ้นมาถึงถ้ำนาคา ก็ต้องตกตะลึงกับธรรมชาติที่แสนจะสวยงามที่แสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของป่าที่ยังไม่ได้ผ่านการบุกรุกจากมนุษย์ น่าแปลกที่เวลาช่วงสายที่แดดที่ส่องลงมากระทบผิวเราแรงมาก แต่อากาศนั้นไม่ได้แรงตามแสงแดงแต่อย่างใด กลับเย็นสบายเปรียบดั่งเรามีเครื่องปรับอากาศติดตัว
สังเกตได้ว่าผู้คนหลากหลายวัยมาเยือนถ้ำนาคา กลุ่มวัยรุ่น กลุ่มคุณลุงคุณป้า คุณน้าคุณอาก็มีเช่นเดียวกัน ทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใส แม้จะเหนื่อยแต่ก็เต็มเปี่ยมด้วยพลัง
การเดินทางปีนป่ายก็ต้องระมัดระวัง เพราะทางค่อนข้างชันและแคบ บันไดที่ทำไว้ก็ช่วยให้เดินขึ้นได้ ส่วนช่วงที่เป็นหินและเชือก เราต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะถ้าพลาดมีโอกาสลื่นตกเขาหรือบาดเจ็บได้ ถุงมือที่เราเตรียมว่าเลยเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญต่อการเดินทางในครั้งนี้
ระหว่างทางก็มีลำธารและต้นไม้ที่ปกคลุมตลอดสองข้างทางทำให้เราลืมความยากลำบากในการเดินทาง และชมความสวยงามของธรรมชาติถือว่าได้มาเติมพลังในวันหยุดที่แท้จริง สามารถนั่งพักที่โขดหินตลอดทางและถ่ายรูปสวยได้เช่นกัน รวมถึงวิวหุบเขาที่สุดลูกหูลูกตาที่เป็นฉากหลังให้เราได้อย่างลงตัว
พลังใจแห่งความศรัทธาที่ทำให้เราได้มาพบกัน
เมื่อมาถึงบริเวณทางเข้าถํ้าคา เราต้องตกตะลึงกับหินรูปร่างเป็นเกล็ดงูที่ปกคลุมอยู่ทั้งหมด แล้วเราก็ได้เข้ามายังถํ้านาคาด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบ เคร่งขรึม เคารพต่อสถานที่ อากาศที่เย็นสบายทำให้ให้ผู้มาเยือนนั้นลืมโลกภายนอกกันไปเลย เหมือนเราได้หลุดมาอีกมิติหนึ่งที่แสนมหัศจรรย์ ทันใดนั้นเราก็ตระหนักได้ว่า เราเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ ของโลกใบนี้ ที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติอันยิ่งใหญ่
ความมหัศจรรรย์ของถ้ำนาคาคือลักษณะของหินที่เปรียบเสมือนกำแพงมีรูปร่างคล้ายลำตัวของพญานาคที่ขดอยู่และเลื้อยไปตามทาง จุดที่เรารอคอยก็คือเศียรของพ่อปู่อือลือ ที่พวกเราบอกเลยว่าทุกคนจะต้องตกตะลึงถึงความสวยงามและความเหมือนดั่งต้องมนต์ หินดังกล่าวมีรายละเอียดเหมือนพญานาคที่นอนนิ่งเป็นหินคล้ายกับตำนานที่เล่าขานมาอย่างยาวนาน
ทว่าระหว่างมุมมองทางความเชื่อในสิ่งเหนือธรรมชาติกับการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ก็มีคำอธิบายที่แตกต่างกัน เราจึงค้นคว้าจากบทความหลากหลายที่มาให้ข้อมูลว่า ลักษณะของหินแบบเกล็ดพญานาคเป็นปรากฎทางธรรมชาติที่มีอายุประมาณ 70 ล้านปี โดยเกิดขึ้นเพราะหินทรายขยายและหดตัวอย่างเร็ว ด้วยอุณภูมิร้อนเย็นที่แตกต่างกัน ทำให้หินแตกออกมีลักษณะคล้ายเกล็ดงูหรือเกล็ดพญานาค เรียกว่าปรากฎการณ์ซันแครก (Suncrack) หรือหมอนหินซ้อน ทำให้เกิดความมหัศจรรย์ที่ก่อเกิดลักษณะของหินที่มีความแปลกตาและงดงาม
ยิ่งได้ฟังที่มาที่ไปแบบนี้ ทำให้เราได้ความรู้เพิ่มมากขึ้นด้วย อีกทั้งพวกเราก็รู้สึกศรัทธาและอยากจะรักษาสภาพธรรมชาติที่นี่ไว้ให้คงอยู่นานที่สุด
ขณะที่อีกจุดคือเฉลียงที่ยื่นออกมาบริเวณหน้าผาหรือถํ้าหลวงปู่วัง เราก็มาต่อคิวเพื่อขอพรตรงเศียรขององค์พญานาคที่มีผู้คนจำนวนมากรอขอพรท่านอยู่ โดยพี่ผู้นำทางได้เล่าให้ฟังว่า หลวงปู่วังได้เดินธุดงค์มายังบริเวณถํ้านี้แล้วปรากฏเห็นงูเผือก ท่านได้บิณฑบาต งูเผือกได้ผงกหัวและเลื้อยเข้าไปบริเวณด้านในถํ้า เชื่อกันว่าบริเวณนั้นเป็นทางที่ไปสู่เมืองบาดาล
พวกเราได้ไหว้ปู่อือลือที่ถ้ำนาคา ถัดมาคือสักการะองค์พระเจดีย์ ถํ้าหลวงปู่วัง จากนั้นได้เดินทางลงจากถํ้า โดยใช้เส้นทางเดิมแต่เร็วขึ้น ด้วยเวลาที่ลงมักง่ายกว่าขึ้นเสมอ เป็นเรื่องปกติ พวกเราใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วโมง ระหว่างทางได้เจอกับผู้คนจำนวนมากมายที่กำลังปีนป่ายขึ้นไปด้วยแรงศรัทธา พวกเราได้ให้กำลังใจ และเดินลงมาจนถึงบริเวณทางขึ้นด้วยหัวใจที่เบาสบาย ภาระกิจการเรียนรู้ของเราที่ถ้ำนาคาก็สิ้นสุดลง แต่ยังเรายังไม่จบการเดินทาง เพราะอีกหนึ่งถ้ำที่เราเดินทางไปคือถ้ำนาคีที่อยู่ไม่ไกลกัน
ถ้ำนาคี สวยงามเคียงคู่กัน
ถ้ำนาคีที่เราได้ไปเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่น่าจดจำ เพราะเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่เราได้บุกป่า ฝ่าดง ทว่าเส้นทางเดินนั้นก็เต็มไปด้วยการผจญภัยที่ทำให้เราเหงื่อออกได้ไม่ยากนัก ความงามของถ้ำนาคีก็พบลักษณะของหินที่คล้ายเกล็ดงูหรือเกล็ดพญานาคเช่นเดียวกัน
หากสังเกตความงดงามของถ้ำนาคีก็งามไม่แพ้ถ้ำนาคา ลานหินและการปีนป่าย เปรียบเสมือนการฝึกพลังใจและความอดทน รวมถึงสานสัมพันธ์ สร้างมิตรภาพกับเพื่อนให้แน่นแฟ้นขึ้นด้วย อีกทั้งทางขึ้นผานาคีก็เป็นจุดวัดใจที่เราต้องเดินบนก้อนหิน และไต่บันไดเหล็กขึ้นไป จนพบกับความอลังการยิ่งใหญ่ของธรรมชาติที่อยู่เบื้องหน้า
พอมาถึงจุดชมวิว เราหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลย มองย้อนกลับไปทั้งการเดินเท้า ทั้งเกาะเกี่ยวไปกับเชือก ลัดเลาะไปตามโขดหิน และขึ้นไปชมวิวบนยอดเขาที่สวยงามมาก ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมงที่พวกเราบอกกับตัวเองว่าจะไม่มีวันลืมเลย ถ้ำนาคีจึงเป็นอีกหนึ่งถ้ำที่ควรแวะมาเยี่ยมชมเคียงคู่กับถ้ำนาคา
การเดินทางไปเยือนทั้งสองถ้ำ ทำให้พวกเราได้ฝึกฝนทั้งแรงกาย แรงใจ เรียนรู้ และประทับใจธรรมชาติที่รังสรรค์สิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดมาบนโลกมนุษย์ การมาไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่เพียงมาด้วยแรงใจ ทว่าร่างกายต้องพร้อมด้วย ทำให้เรายิ่งต้องเพิ่มความใส่ใจในการดูแลสุขภาพมากยิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นการที่ธรรมชาติได้สร้างสรรค์สิ่งที่สวยงาม มนุษย์อย่างเราจึงเห็นว่าควรรักษาไว้และเรียนรู้จากธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่เสมอ
พวกเราเดินทางเก็บข้อมูลในช่วงสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่ยังไม่ระบาดรุนแรงนัก ระหว่างการเดินทางมีการปฏิบัติตามมาตราการในการท่องเที่ยวอย่างเคร่งครัด รักษาระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย และล้างมืออย่างสม่ำเสมอ ผู้เข้าร่วมการเดินทางผ่านการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบทุกคน
Reference & Bibliography
- เจ้าเชื่อเรื่องพญานาคบ่ “ถ้ำนาคา” ตำนานเล่าขาน พลังศรัทธานักเที่ยวสายมู. สืบค้นเมื่อ 15 ธันวาคม 2564, จาก https://www.thairath.co.th/news/society/2237538
- เปิด “7 ตำนานลี้ลับ” ความเชื่อมหัศจรรย์แห่ง “ถ้ำนาคา-ภูลังกา”. สืบค้นเมื่อ 15 ธันวาคม 2564, จาก https://www.dailynews.co.th/news/488340
- Kapook Travel | ถ้ำนาคา ที่เที่ยวไทยชวนแปลกตา กับหินที่มีรูปร่างเหมือนงูยักษ์. สืบค้นเมื่อ 20 ธันวาคม 2564, จาก https://travel.kapook.com/view246270.html
- “ถ้ำนาคี” ของดีคู่ “ถ้ำนาคา” อช.ภูลังกาชวนเที่ยว หลังดารา-คนดัง นิยมมาไหว้ขอพร. สืบค้นเมื่อ 20 ธันวาคม 2564, จาก https://mgronline.com/travel/detail/9640000114778
- เปิดความลับ “ถ้ำนาคา” หินเกล็ดพญานาคเกิดขึ้นได้อย่างไร. สืบค้นเมื่อ 20 ธันวาคม 2564, จาก https://www.komchadluek.net/news/470196
Additional Information
ผลงานชิ้นนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา BR402 Youtube Production, BR404 Broadcasting Project ภาคการศึกษาที่ 1/2 2564