ความต่างของวัย (Generation) อาจจะส่งผลหลายอย่างในการใช้ชีวิตร่วมกับคนในสังคม ทว่าหากไม่ได้มองเป็นปัญหาเพียงอย่างเดียว การอยู่ร่วมกันระหว่างคนต่างวัยก็ทำให้เราได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน

เรามาเรียนรู้เรื่องราวของคนแต่ละช่วงวัย เขาเกิดมาในช่วงเวลาใด เติบโตมาในสังคมแบบใด ต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงในสังคมอย่างไร ทำความรู้จักคน 7 ช่วงวัย (Generation) ที่มีความแตกต่างกันทั้งทางความคิด ความรู้สึก พฤติกรรมในการใช้ชีวิต และสังคม

Lost Generation รุ่นบุกเบิก ผู้สับสน ผู้สูญเสีย

สงคราม คราบน้ำตา ความสูญเสีย การก่อร่างสร้างตัว นี่คือสิ่งที่คนรุ่นบุกเบิก หรือ Lost Generation ต้องเผชิญ พวกเขาเกิดในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 เป็นบุคคลที่เกิดในช่วงปีค.ศ.1883-1900 คนกลุ่มนี้ต้องผ่านร้อนผ่านหนาวรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของโลกในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 อีกทั้งยังต้องรับมือกับการระบาดของโรค เช่น ไข้หวัดสเปน ที่มาคร่าชีวิตของผู้คนเป็นจำนวนมาก

พวกเขาจึงได้รับการให้นิยามว่าเป็นรุ่นบุกเบิก รุ่นหลงทาง ผู้สับสน ผู้สูญเสีย ผู้ได้รับบาดแผลจากสงคราม เผชิญวิกฤตมากมายในชีวิต ทำให้กลายเป็นกลุ่มคนที่ต้องทำให้ตัวเองแข็งแกร่งในการใช้ชีวิตประจำวัน เพราะพวกเขาเรียนรู้ความยากลำบากของชีวิตในช่วงสงคราม คนรุ่นหลังอาจจะมองว่าพวกเขาเคร่งครัด เคร่งขรึมจริงจังในการใช้ชีวิตเกินไป เหตุเพราะความเจ็บปวดในชีวิตที่ต้องต่อสู้เพื่อให้ตนเองมีชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก ทำให้พวกเขามีลักษณะเป็นผู้ใหญ่ที่ใส่ใจกับทุกก้าวเดินของชีวิต เพื่อป้องกันความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น

Greatest Generation รุ่นอดทน ทำเพื่อสังคม ผู้สู้ชีวิต

ไม่ว่าจะวิกฤตอย่างไร ใจและกายของพวกเขาก็ยังแข็งแกร่ง และเอาตัวรอดได้ทุกสถานการณ์ เพราะได้เรียนรู้จากคนรุ่นก่อน พวกเขาเกิดในช่วงปีค.ศ.1901-1924 ขณะนั้นคือช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 รอยต่อระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 เหตุการณ์ของสงครามส่งผลกระทบต่อผู้คนทั่วโลกทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม วิถีชีวิต ได้รับความเจ็บปวดทางร่างกายและจิตใจ ต้องรับมือกับสูญเสียเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้โลกมีการเปลี่ยนเปลี่ยนไปอย่างมาก มีการพัฒนาทางเทคโนโลยี การคมนาคมก้าวหน้าขึ้น การสื่อสารกว้างไกลกว่าคนรุ่นแรก อีกทั้งยังมีวิกฤตทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่มีชื่อว่า Great Depression ในช่วงปีค.ศ.1939-1945 เป็นผลพวงมาจากสงครามโลก อย่างไรก็ตามวิกฤตของสงครามและเศรษฐกิจก็ทำให้พวกเขากลายเป็นนักสู้ รู้จักการจัดการชีวิต รู้จักใช้เงิน เก็บเงิน เพื่อสร้างชีวิต สร้างครอบครัว พวกเขาจริงจังและจริงใจในการใช้ชีวิต และมีจิตสำนึกที่ดีต่อสังคม

Silent Generation รุ่นมุ่งมั่นทำงาน ผู้ทำมาหากิน

การรับรู้ภาวะบอบช้ำของสงครามผ่านคนรุ่นก่อนและการเผชิญด้วยตนเอง ทำให้ความเคลื่อนไหวของคนรุ่นนี้แสดงออกผ่านเรื่องงาน พวกเขาเผชิญกับสภาพสังคมที่ผันผวนไม่แตกต่างจากคนรุ่นก่อน เกิดและเติบโตในปีค.ศ.1925-1945 ต้องรับมือกับสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ สงคราม ความขัดแย้งของประเทศ แต่ทว่าก็ยังคงมุ่งมั่นในเรื่องการทำงาน ขณะเดียวกันก็ยังคิดถึงเรื่องสังคมด้วย

พวกเขาเข้าไปเป็นหนึ่งในฟันเฟืองของการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจจากสงคราม พวกเขาไม่ได้เข้าไปต่อสู้ในสงครามเหมือนคนรุ่นก่อน แต่ต้องต่อสู้ทางเศรษฐกิจ การเรียนรู้จากคนรุ่นก่อนทำให้มีความแข็งแกร่งที่จะรับมือกับโลกที่เปลี่ยนแปลง กลุ่มคนรุ่นนี้วางตัวดี มีความคาดหวังที่ดีต่ออนาคต จริงจังกับชีวิต รักและเคารพผู้ใหญ่ ให้ความสำคัญกับกฎระเบียบของสังคม

Baby Boomer Generation รุ่นฟื้นฟู ผู้สร้าง ผู้เติบโต

ชีวิตที่ต้องเดินต่อไป เมื่อโลกผ่านวิกฤตมากมาย สงคราม โรคระบาด เศรษฐกิจย่ำแย่ ถึงเวลาแล้วที่เราต้องช่วยกันขับเคลื่อนโลกให้ไปในทางที่ดี พวกเขาเกิดในช่วง ค.ศ.1946-1964 เป็นช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ต่อเนื่องมาถึงสงครามเย็น และสงครามเวียดนาม เป็นช่วงเวลาที่ได้ช่วยกันเยียวยาให้สังคมดีขึ้น หลายประเทศก็ต้องเร่งเพิ่มทรัพยากรบุคคล เพราะต้องการแรงงานจำนวนมาก เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การกระตุ้นให้คนมีลูก ยุคนี้จึงได้ชื่อว่าเป็นยุคที่มีเด็กเกิดเป็นจำนวนมาก พวกเขาจึงเป็นกลุ่มคนที่ช่วยกันสร้างทรัพยากรบุคคลให้กับโลก

โลกในขณะนี้มีการพัฒนาในด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยี สังคม เป็นอย่างมาก เพราะคนกลุ่มนี้ต้องทำงานหนัก ไม่แตกต่างจากคนรุ่นแรก เพื่อเร่งสร้างที่สูญเสียไปให้กลับคืนมา อุทิศชีวิตเพื่องาน เติบโตไปเป็นผู้บริหารองค์กร มีความอดทน รักงาน เน้นความเป็นระเบียบเรียบร้อย นี่คือรุ่นที่ช่วยฟื้นฟูสภาพสังคม เพื่อส่งต่อสังคมที่ดีให้กับคนรุ่นต่อไป ในช่วงเวลานี้ก็มีกลุ่มคนที่เคลื่อนไหวเรื่องเสรีภาพ ในบ้านเราเรียกคนกลุ่มนี้ว่าบุบผาชน พวกเขาแสวงหาชีวิตที่อิสระ รักสิ่งแวดล้อม ธรรมชาติ ต่อต้านความรุนแรง อยากให้โลกสงบสุขมากกว่ามีการเข่นฆ่าทำร้ายกันเพราะอุดมการณ์แตกต่างกัน

Generation X รุ่นร่ำรวย ผู้ท้าทายโลก

ชีวิตที่สะดวกสบายกว่าในยุคสงคราม แสวงหาความรื่นรมย์ในชีวิตได้มากยิ่งขึ้น พวกเขารับมรดกจากสิ่งที่คนรุ่นก่อนมาสานต่อ คนรุ่นนี้เกิดในช่วง ค.ศ.1965-1979 เป็นกลุ่มที่เกิดมาในภาวะที่โลกค่อนข้างสงบสุขแล้ว สงครามที่ปะทะกันรุนแรงทางกายภาพไม่มี พวกเขารับช่วงต่อกิจการ สร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับโลกทางเศรษฐกิจ ใช้ชีวิตอย่างสบาย มีการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง

กลุ่มคนรุ่นนี้ไม่ได้เคร่งครัดกับธรรมเนียมหรือกฎเกณฑ์มากนัก ค่อย ๆ เริ่มเปิดกว้างทางความคิด รักการทำงานและให้ความสำคัญกับครอบครัว สนใจเรียนรู้เรื่องราวรอบตัว เปิดกว้างทางความคิดในเรื่องสังคม เศรษฐกิจ การเมือง มีความคิดสร้างสรรค์ เรียนรู้เร็ว ปรับตัวได้ง่าย เพราะสภาพสังคมที่เติบโตมาแตกต่างจากคนยุคก่อน พวกเขาแสวงหาวิถีทางใหม่ในการใช้ชีวิตที่ไม่ยึดติดกับคนรุ่นก่อน อีกทั้งยังไม่เคยเจอความยากลำบากเหมือนคนรุ่นก่อน

Generation Y รุ่นกล้าคิด กล้าตัดสินใจ ผู้รักความสบาย

โลกใบใหม่ที่แตกต่างจากเดิม พวกเขาเกิดมาพร้อมกับความสบาย ได้รับการเอาใจ ประคบประหงม ไม่มีความเจ็บปวด ผู้ที่เกิดในช่วงเวลา ค.ศ.1980-1997 คือช่วงที่โลกเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะการมีคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อผู้คนทั่วโลกไว้ด้วยกัน เข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น ก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวัฒนธรรมมากมาย หลายประเทศทลายกำแพงทางวัฒนธรรมลง เกิดกระแสวัฒนธรรมป๊อป หรือ Pop Culture ที่แพร่กระจายไปทั่วโลก เพลง ดนตรี ภาพยนตร์ ความบันเทิง เติบโตอย่างรวดเร็ว

การผลิตและสร้างสรรค์ทางวัฒนธรรมถูกกระจายต่ออย่างรวดเร็ว จากโลกตะวันตกและโลกเอเชีย ที่มีอิทธิพลซึ่งกันและกัน มีการเติบโตทางเศรษฐกิจ มีการวางระบบการศึกษาที่ดี พวกเขามีความเป็นตัวของตัวเอง กล้าคิด กล้าตัดสินใจ ชัดเจนในเรื่องงานและการใช้ชีวิต ทำหลายสิ่งหลายอย่างได้ในเวลาเดียวกัน คนรุ่นนี้ยังได้ชื่อว่า Why Generation เพราะพวกเขาชอบตั้งคำถาม มีเหตุผลให้กับทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำ เขาเรียนรู้ด้วยตนเองได้ดี ค้นหาสิ่งสนใจทางอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเจอกับปัญหาก็พร้อมรับมืออย่างมีเหตุมีผล รู้ว่าตนเองชอบและต้องการอะไร

Generation Z รุ่นดิจิทัล ผู้อ้างว้างและสร้างการเปลี่ยนแปลงต่อโลก

การเกิดมาท่ามกลางโลกที่เต็มไปด้วยความทันสมัยมากมาย ทำให้พวกเขาไม่ชอบการรอคอย คนกลุ่มนี้เกิดหลังปีค.ศ.1997 แรกเริ่มลืมตาดูโลกก็คุ้นกับเทคโนโลยีทันสมัย เพราะคนรอบตัว ผู้ดูแล พ่อแม่แวดล้อมไปด้วยเครื่องอำนวยความสะดวกแบบดิจิทัล การเรียนรู้เทคโนโลยีก็ทำได้ง่ายขึ้น

ทว่าพวกเขาอาจจะรู้สึกถึงความอ้างว้างบ้าง บางคนพ่อแม่ไม่มีเวลาดูแลตั้งแต่แรกเกิด ต้องออกไปทำงาน จึงอาจจะถูกเลี้ยงดูด้วยคนแปลกหน้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สมาร์ทโฟนคืออุปกรณ์สำคัญที่ขาดไม่ได้ พวกเขาเสพติดการรับข้อมูลข่าวสาร ตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูล ให้ความสำคัญกับเงินและความสะดวกสบาย กระบวนการคิดและการวางแผนทางความคิดจึงทำผ่านการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล

ขณะเดียวกันก็เปิดกว้างทางความคิด อาจจะเป็นพวกหัวก้าวหน้าที่สนใจขับเคลื่อนสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับโลกในแง่มุมที่คนรุ่นก่อนอาจไม่คิดที่จะทำ พวกเขาให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมในการใช้ชีวิต กล้าที่จะต่อต้านสิ่งที่ไม่เป็นธรรม เรียนรู้เรื่องใหม่อยู่ตลอดเวลา ไม่อยู่ในกรอบ อยากได้อะไรก็ต้องได้ ไม่เก็บความรู้สึก บ่นหรือระบายปัญหาที่ตนเองเจอผ่านโซเชียลมีเดีย เกลียดความเชื่องช้า อาจจะคิดและตัดสินใจเร็วเกินไป

อย่างไรก็ตามในบางครั้งก็อาจจะไม่ได้ฟังความคิดเห็นของคนรุ่นก่อนมากนัก เพราะเชื่อในการตัดสินใจของตนเอง อีกทั้งวิกฤตในชีวิตที่พวกเขาเจอไม่ว่าทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม การศึกษา พวกเขาก็มีทีท่ารับมือต่อปัญหาและแก้ปัญหาในแบบที่ท้าทายความเชื่อของคนรุ่นก่อนเป็นอย่างมาก

ความต่างวัยจะไม่ใช่ปัญหา หากเราเรียนรู้ เข้าใจสภาพสังคม ช่วงเวลา ปัญหาที่คนแต่ละช่วงวัยเผชิญแตกต่างกัน สิ่งสำคัญคือการเปิดใจ รับฟังเหตุผลของกันและกัน อย่าคิดว่าโลกหมุนรอบตัวเอง เพราะโลกมีการเปลี่ยนแปลงและทุกคนต้องยอมรับกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นใหม่ตลอดเวลา

Reference & Bibliography

Additional Information

ผลงานชิ้นนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา JR413 Newspaper Workshop, JR414 Magazine Workshop, JR303 Convergence Journalism Editing ภาคการศึกษาที่ 2/2564

Writer & Graphic

มีแฟนไม่ได้แปลว่าสวย beautiful ต่างหากที่แปลว่าสวย

Writer & Graphic

I want to be a reporter, I want to be a writer, I want to be something that makes me earn money following my favorite stars.