วันนี้รวย
โดนหวยกินอีกแล้ว!
รุ่งหรือร่วงจ๊ะ งวดนี้
คำพูดเหล่านี้คือสิ่งที่เราได้ยินกันจนคุ้นหูในวันที่ 1 และ 16 ของทุกเดือน อันเป็น วันหวยออก ผู้ที่หลงใหลในการเสี่ยงโชคล้วนรวมตัวกันเพื่อดูโทรทัศน์ เปิดมือถือ พร้อมกำกระดาษใบบาง ที่ถูกพิมพ์ด้วยชุดตัวเลขไม่ซ้ำใครอย่างใจจดใจจ่อ ลุ้นว่าตัวเลขวิเศษที่ปรากฏบนจอแก้วนั้นจะตรงกับของตนซื้อมาหรือไม่
ผลลัพธ์มีสองทางตามหลักความเป็นไปได้ นั่นคือถูกหวยและโดนหวยกิน ถึงแม้อย่างหลังจะมีให้เห็นกันจนชินตาก็ตาม ทั้งนี้ก็เป็นความสุขทางใจ ความหวัง ความฝันที่จะหลุดพ้นจากชีวิตเส็งเคร็ง แต่ก็แลกมาด้วยการสูญเสียเงินทองมากน้อยแตกต่างกัน
เสียงโห่ร้องยินดีและเสียใจสามารถนับได้เป็นซาวด์เอฟเฟคประจำวันหวยออกเลยก็ว่าได้ เพราะอย่างไรก็คือผลลัพธ์จากความลุ้นระทึกของกลุ่มคนที่หมายมั่นจะพึ่งโชคชะตา คว้าเงินรางวัลโดยลงทุนในกระดาษเพียงไม่กี่ใบ ทว่าทำไมมนุษย์โลกอย่างเรา ถึงสนุกไปกับการลุ้นผลตัวเลขนัก การสุ่มเอารางวัลมหาศาลแบบนี้มีมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วมีแค่เพียงคนไทยหรือเปล่าที่อินไปกับอะไรพวกนี้
เราจะพาท่องประวัติศาสตร์การเสี่ยงดวงของชาวโลก รับรู้ถึงรากที่ฝังลึกในวัฒนธรรมการสุ่ม เงินตรามหาศาลที่หมุนเวียน และบทบาทของของการเสี่ยงโชคในเหตุการณ์สำคัญของประวัติศาสตร์มนุษย์ ที่จะทำให้ตระหนักว่าในกระดาษแผ่นบางที่ดูเหมือนไม่มีค่านั้น มีกลิ่นอายของเรื่องราวมากมายซึ่งถูกกลั่นกรองจนมาบรรจบเป็นสิ่งที่ถูกเรียกว่า “หวย” ในมือคุณ
ทุนสงครามจีนและของเล่นของชนชั้นสูง
ล็อตเตอรี่แรกในประวัติศาสตร์มนุษย์มีจุดเริ่มต้นที่ประเทศจีนสมัยราชวงศ์ฮั่น หรือ 205 ถึง 187 ปีก่อนคริสตกาล ขณะนั้นฝ่ายปกครองกำลังประสบปัญหาขาดเงินทุนทำศึกและก่อกำแพงเมืองจีน จึงเกิดไอเดียสร้างเกมสุ่มรางวัลที่มีชื่อว่า คีโน ขึ้นมา ซึ่งเป็นต้นแบบของ เกมคีโน ดังที่เราเห็นกันใน คาสิโน ทั่วโลก แต่ด้วยความร่อยหรอของหลักฐานทางประวัติศาสตร์ เราจึงไม่รู้แน่ว่าล็อตเตอรี่ในสมัยนั้นมีวิธีการเล่นอย่างไร
การสืบสาวค้นคว้าก็ยังพอทำได้ เพราะมีบันทึกในหนังสือ Book of Songs ที่เขียนโดยชาวจีนในสมัยเดียวกัน เนื้อหาภายในมีการกล่าวถึงเกมที่เล่นกับความเป็นไปได้โดยการจับไม้ ใครหยิบได้ไม้ที่สลักอักษรตัวใดคนนั้นก็จะได้สิ่งตอบแทนที่ถูกระบุคู่กับอักษรนั้นไป
ต่อมาสมัยจักรวรรดิโรมันยังปกครองผืนยุโรป ล็อตเตอรี่นำมาใช้เป็นเกมการเล่นของขุนนางและผู้มียศถาบรรดาศักดิ์ ส่วนมากมักเล่นในงานเลี้ยงสังสรรค์ และเล่นบ่อยกว่าในงานเลี้ยงของชาวแซเทอร์เนี่ยน กฏการเล่นนั้นไม่ซับซ้อน แขกร่วมงานแต่ละคนจะได้รับตั๋วคนละชิ้น รูปแบบแตกต่างกันไปในแต่ละโอกาส บ้างก็กระดาษ บ้างก็ตราโลหะ ซึ่งผู้ถือตั๋วจะได้สุ่มของรางวัลเป็นวัตถุมีค่า เช่น เครื่องเงิน เครื่องครัวหรูหรา จนไปถึงผ้าถัก
ในเวลาไม่นานนัก หลังล็อตเตอรี่เป็นที่นิยมในสังคมผู้ดียุโรป จักรพรรดิออกัสตัสได้เล็งเห็นประโยชน์ จึงผลิตล็อตเตอรี่สำหรับประชาชนทั่วไป โดยนำรายได้จากส่วนต่างมาซ่อมแซมกรุงโรมและใช้ทำสงคราม ทั้งหมดที่เล่ามาข้างต้นคือประวัติของล็อตเตอรี่ในยุคก่อนประวัติศาสตร์
แหล่งเงินชั้นยอด หอมหวาน ทว่าไม่ผิดใจคนเสียภาษี
ไม่ว่าจะในประเทศไหน อาณาจักรใด หรือเกาะอะไร เหล่าพลเมืองผู้อยู่อาศัยก็ล้วนไม่ชอบคำว่า ภาษี อยู่เป็นนิจ หากฝ่ายปกครองสามารถหารายได้เข้าคลังโดยไม่ต้องหักเงินได้จากประชาชนล่ะ มันจะดีขนาดไหนกัน ซึ่งนั่นเป็นแนวคิดที่เกิดขึ้นเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 15 ณ เมือง Ghent และ Bruges ในเบลเยี่ยม Utrecht ในเนเธอร์แลนด์ และ L’Ecluse ในฝรั่งเศส
ซึ่งได้จัดตั้งระบบล็อตเตอรี่จำหน่ายแก่ผู้สนใจเสี่ยงโชค โดยมีรางวัลคือเงินสดจำนวนมาก ก่อนจะนำรายได้ส่วนนี้ไปบำรุงปัจจัยพื้นฐาน และช่วยเหลือผู้ยากไร้ที่ขาดงานและไม่มีที่ไป และที่น่าสนใจคือเมื่อ 9 พฤษภาคม ค.ศ.1445 เมือง L’Ecluse ได้จำหน่ายล็อตเตอรี่ไปทั้งหมด 4,304 ใบ โดยมีเงินรางวัลรวมสูงสุดถึง 1,737 ฟลอรินส์ หรือคือราว 5,500,000 บาทไทยเลยทีเดียว
ถัดจากนั้นในคริสต์ศตวรรษที่ 17 รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ได้ออกล็อตเตอรี่ที่ชื่อว่า Staatsloterij ออกมาเพื่อเป็นแหล่งจัดหาเงินเพื่อกิจราชการและลดความเหลื่อมล้ำในสภาพเศรษฐกิจ ทว่าแม้จะผ่านไปแล้วนับสามร้อยกว่าปี แต่ล็อตเตอรี่ชื่อนี้ก็ยังคงระบบอยู่ เปิดโอกาสให้ชาวเนเธอร์แลนด์ซื้อไปเสี่ยงดวงกับรางวัลที่โอกาสจะถูกนั้นแสนริบหรี่ ล็อตเตอรี่ของเนเธอร์แลนด์จึงได้ตำแหน่งล็อตเตอรี่ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ซึ่งยังมีคงมีการจัดจำหน่ายไปครอง
คำว่า Lot ในภาษาดัชท์ แปลว่า โชคชะตา
เมื่อราคาเกินเอื้อม จึงต้องมีคนกลาง
ในปี ค.ศ.1569 สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 แห่งอังกฤษ ได้จัดจำหน่ายล็อตเตอรี่ตัวแรกของประเทศเป็นจำนวน 400,000 ใบ โดยมีเงินรางวัลรวมทั้งหมด 5,000 ปอนด์สเตอร์ลิง หากแต่ราคาตั๋วล็อตเตอรี่นั้นยังคงสูงมากถึง 0.5 ปอนด์สเตอร์ลิง ซึ่งเทียบเท่ารายได้เฉลี่ยสามสัปดาห์ของพลเมืองทั่วไปในขณะนั้นเลยทีเดียว จึงทำให้เกมการเสี่ยงดวงเป็นการละเล่นของคนชั้นสูงและนักลงทุนกระเป๋าหนักไป
ผู้ที่ซื้อตั๋วล็อตเตอรี่จะได้รับสิทธิ์การละเว้นหมายจับหนึ่งครั้ง ในทุกคดียกเว้นการจี้ปล้น การฆ่า การกบฏ และคดีอาญาทุกประเภท
หลังจากนั้นสามปี รัฐบาลอังกฤษได้ตัดสินใจขายสิทธิ์จำหน่ายล็อตเตอรี่แก่พ่อค้าคนกลาง เรียกกันติดปากว่าโบรกเกอร์ ซึ่งทำหน้าที่เดียวกับ ยี่ปั๊ว ที่คนไทยรู้จักกันดีนั่นเอง คนกลางเหล่านี้จะนำตั๋วล็อตเตอรี่มาแตก เป็นส่วนเท่ากัน หักราคาและลดทอนเงินรางวัลไปตามสัดส่วนที่แตกออก ทำให้พลเรือนชนชั้นล่างและกลางสามารถมาร่วมเสี่ยงโชคกันได้ ไม่จำเป็นต้องสะสมเงินก้อนโตแล้วซื้อล็อตเตอรี่ราคาสูงอีกต่อไป และนั่นทำให้มีเงินไหลเวียนในตลาดล็อตเตอรี่มหาศาล บริษัทจำกัดที่รับสิทธิ์จำหน่ายล็อตเตอรี่จากรัฐบาลผุดขึ้นมากมายราวกับดอกเห็ด ผู้คนยุคนั้นจึงตั้งชื่อเล่นล็อตเตอรี่ที่ถูกแตกเป็นตั๋วขนาดเล็กนี้ว่า Sixteenth และ Third Class
ฐานสำคัญของการตั้งรกรากและทำศึกสงคราม
อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้น ว่าหลังจากที่รัฐบาลอังกฤษปล่อยสิทธิ์จำหน่ายล็อตเตอรี่แก่โบรกเกอร์นั้นทำให้เกิด บริษัท จำกัดกำเนิดขึ้นมามากมาย ในที่นี้ก็รวมถึงบริษัท เวอร์จิเนีย คอมปานี แห่งลอนดอน เช่นกัน ทว่าบริษัทนี้ไม่ได้จบอยู่เพียงการดำเนินกิจการเสี่ยงโชคในอังกฤษ แต่ขยับขยายกิจการไปถึงดินแดนใหม่คือทวีปอเมริกา
พวกเขาได้รับสิทธิ์โดยตรงจาก พระเจ้าเจมส์ที่หนึ่ง ให้จำหน่ายล็อตเตอรี่เพื่อนำกำไรมาใช้ก่อหลักปักฐานอาณานิคมอังกฤษที่เจมส์ทาวน์ รัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา
ต่อมานับแต่คริสต์ศตวรรษที่ 18 เป็นต้นไป ล็อตเตอรี่ในอเมริกาได้มีบทบาทอย่างมากในการก่อสร้างสถานที่สำคัญหลากแห่ง และใช้เป็นแหล่งทุนในการทำสงครามหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย และมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ที่ถูกก่อตั้งด้วยเงินทุนจาก Academy Lottery ในปี ค.ศ.1755
สงครามฝรั่งเศสและอินเดียที่ได้เงินจากการจำหน่ายล็อตเตอรี่มาก่อสร้างฐานตั้งรับและนำมาจัดหาอาวุธในปี ค.ศ.1758
การกระตุ้นการจำหน่ายที่ดินและตลาดค้าทาสโดย เบอร์นาร์ด มอร์ ในปี ค.ศ.1769 ซึ่งเขาใช้ล็อตเตอรี่ในการเพิ่มลูกเล่นซื้อขาย โดยให้ผู้ลงทุนได้สุ่มรางวัลเป็นที่ดินและแรงงานทาสในชื่อว่า Slave Lottery
กระทั่งมาถึงช่วงสงครามปฏิวัติอเมริกา ในช่วงปี ค.ศ.1775-1783 สภาแห่งภาคพื้นทวีป (Continental Congress) ได้ใช้ล็อตเตอรี่เป็นแนวทางจัดหาเงินทุนเพื่อสนับสนุนกองทหารอาณานิคม ก่อนจะใช้ส่วนที่เหลือในการซ่อมแซมผลกระทบจากสงครามดังกล่าว
เศรษฐกิจไทยไม่ดี ฮวย(หวย)ช่วยได้
ถอยจากสังคมโลก สู่วงการเสี่ยงโชคของคนไทย ในปี พ.ศ.2375 ประเทศไทยประสบปัญหาเศรษฐกิจ ข้าวยากหมากแพง ทุกคนล้วนเก็บเงิน ไม่ลงทุน ไม่เกิดเม็ดเงินหมุนเวียน รัชกาลที่ 3 จึงโปรดเกล้าฯ ให้พระศรีชัยบาล (จีนหง) ตั้งโรงหวยขึ้นมา
ช่วงแรกจะมีแต่กลุ่มคนจีนเท่านั้นที่เล่นหวย ซึ่งตัวหวยจะมีลักษณะเป็นแผ่นป้ายขนาดเล็ก 34 ป้าย ที่มีรูปดอกไม้ประทับไว้ จึงเป็นที่มาของชื่อ ฮวยหวย ที่แปลว่า ชุมนุมดอกไม้ การเล่นเกมเสี่ยงโชคไม่ซับซ้อน แต่ละป้ายหวยจะมีชื่อผู้มีชื่อเสียงชาวจีนสลักไว้ โดยให้ผู้เล่นเลือกไม้ แทงว่าจะออกเป็นชื่ออะไร หากใครทายถูก เจ้ามือจะจ่ายเป็นเงินสดให้ 30 เท่าจากที่แทงไปเลยทีเดียว
และแล้ว หวย ก็เข้าสู่สังคมคนไทยอย่างเป็นทางการ และได้บิดเบือนกฏการเล่นเล็กน้อย เปลี่ยนผู้มีชื่อเสียงชาวจีนที่ถูกสลักอยู่บนป้ายหวยให้กลายเป็นอักษรภาษาไทย นับแต่ ก-ไก่ ถึง ฮ-นกฮูก ป้ายหวยทั้งหมดจึงมี 36 ป้าย และถูกเรียกโดยผู้เล่นว่า หวย ก ข
นับแต่นั้น ความต้องการเล่นหวยนั้นมากขึ้นอย่างไม่อาจควบคุม อากรหวยจึงนับได้ว่าเป็นรายได้สำคัญของรัฐไปโดยปริยาย ขณะเดียวกัน เมื่อมีด้านสว่างย่อมมีด้านมืด ขุนบาลเถื่อนและโรงหวยผิดกฏหมายผุดขึ้นมากมายทั่วประเทศ บั่นทอนรายได้รัฐจนขาดหาย ในสมัยรัชกาลที่ 5 จึงทรงมีพระราชดำริ ยกเลิกการเล่นพนัน ซึ่งในที่นี่นับรวมถึงหวยด้วยเช่นกัน แต่เพราะอากรหวยคือรายได้ก้อนใหญ่ของรัฐ ท่านจึงยกเลิกอากรบ่อนเบี้ยก่อน จากนั้นจึงตัดสินใจยกเลิกอากรหวยในสมัยรัชกาลที่ 6
ท้ายสุดในปี พ.ศ.2482 ได้มีการจัดตั้ง สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ออกล็อตเตอรี่เป็นประจำ หวยป้ายและหวย ก ข จึงเปลี่ยนมาเป็นกระดาษที่พิมพ์เลขชุด ให้ผู้เล่นเสี่ยงโชคกับเลขท้ายดังเช่นที่เราเห็นกันจนชินตาในทุกวันที่ 1 และวันที่ 16 ของทุกเดือน
คุณค่าของการได้ลอง
“อ๋อ…มันเป็นแบบนี้เองเรอะ เจ้ากระดาษบาง ๆ นี้” นี่เป็นคำพูดของเราเอง ขณะก้มมองกระดาษล็อตเตอรี่งวดที่ผ่านมา ซึ่งไม่ถูกรางวัล
มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่แปลก ทั้งที่ร่างกาย อวัยวะทุกส่วนรวมถึงสมองพยายามอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้เราพาตัวเองไม่เสี่ยง ทั้งด้านกายภาพ ด้านจิตใจ และในที่นี้คือด้านการเงิน ทั้งนี้ความยั่วยวนของเกมที่ถูกออกแบบมาให้ลุ้น ในฐานะผู้เล่นหวยก็ไม่อาจต้านทานความระทึกของการได้เสี่ยงดวงไหว พยายามเลือกชุดตัวเลขที่ถูกใจ ออกเงินซื้อมาใบสองใบโดยหวังว่า สักวันเราจะรวย
อย่างไรก็ตาม มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่เจ็บแล้วรู้จักจำ หากแต่คำว่า ขอให้ได้เสี่ยง ก็ทำให้เราลืมเจ็บไปได้เช่นกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่อาจห้ามกันได้ ก่อนที่จะเลือกซื้อล็อตเตอรี่งวดหน้า ก็อย่าลืมเรื่องราว ประวัติศาสตร์กว่า 2,000 ปีที่ผ่านมาของมัน ตระหนักตัวเองให้ได้ว่า ถึงคนเราจะชอบเล่นล็อตเตอรี่กันขนาดไหน แต่อย่างไรคนที่ได้ดีจากมันก็มีเพียงแค่หยิบมือเท่านั้นเอง
Reference & Bibliography
- Britannica. (ม.ป.ป.). Modern lottery operations. สืบค้นเมื่อ 21 พฤษจิกายน 2564, จาก https://www.britannica.com/topic/lottery/Modern-lottery-operations
- Realmoney Gambling. (ม.ป.ป. 3000 Years of Keno History and Counting. สืบค้นเมื่อ 22 พฤษจิกายน 2564, จาก http://realmoneygambling.ca/blog/2016/12/16/keno-history
- Incomm payments. (2562). A Brief History of Lotteries. สืบค้นเมื่อ 21 พฤษจิกายน 2564, จาก https://www.incomm.com/about/insights/a-brief-history-of-lotteries
- Wikipedia. Lottery. (2564). สืบค้นเมื่อ 20 พฤษจิกายน 2564, จาก https://en.wikipedia.org/wiki/Lottery
- วิกิพีเดีย. (2564). หวยในประเทศไทย. สืบค้นเมื่อ 21 พฤษจิกายน 2564, จาก https://th.wikipedia.org/wiki/หวยในประเทศไทย
- Wikipedia. (2564). Keno. สืบค้นเมื่อ 22 พฤษจิกายน 2564, จาก https://en.wikipedia.org/wiki/Keno
- ขอขอบคุณภาพประกอบ Pexels: Free Stock Photos www.pexels.com
- ขอขอบคุณภาพประกอบ Unsplash: Beautiful Free Images & Pictures www.unsplash.com
- ขอขอบคุณภาพประกอบ Freepik: Free Vectors, Stock Photos & PSD Downloads www.freepik.com
Additional Information
ผลงานชิ้นนี้