ร่วมสร้างจิตสำนึกที่ดีในการขับขี่ยานพาหนะ ป้องกันอุบัติเหตุ ภายในมหาวิทยาลัยกรุงเทพ

ผอ.ฝ่ายอาคาร ฯ คลี่แผนงานการดูแลจราจร หวังสร้างจิตสำนึกให้นักศึกษา ด้านรปภ.เผย หน้าตึกนิเทศ ฯ ครองแชมป์โค้งเสี่ยงอันตราย หากไม่ระมัดระวัง

ผู้อำนวยการฝ่ายอาคารสถานที่และภูมิทัศน์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ คลี่แผนงานควบคุมดูแลการจราจรในมหาวิทยาลัย พร้อมมุ่งหวังสร้างจิตสำนึกให้นักศึกษา ด้านเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเผยโค้งหน้าตึกคณะนิเทศศาสตร์มียอดการเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุค่อนข้างบ่อย วอนขอให้นักศึกษาระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนน พร้อมมีมาตราการป้องกัน รับมือในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน เพื่อให้นักศึกษาได้รับความปลอดภัยสูงสุด

การเดินทางล้วนมีหลายวิธีการ เช่น การเดิน การโดยสารรถสาธารณะ และการเดินทางมาด้วยยานพาหนะส่วนบุคคล สำหรับนักศึกษาหรือบุคลากรที่เดินทางมามหาวิทยาลัยกรุงเทพด้วยรถยนต์ส่วนตัวนั้น นอกจากจะต้องมีความรับผิดชอบเรื่อง ‘รถยนต์ส่วนตัว’ แล้ว ยังต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ร่วมทาง

เราลงพื้นที่เก็บข้อมูล เพื่อนำเสนอถึงแผนงานและมาตรการการควบคุมความเร็วของรถยนต์ ซึ่งมุ่งหวังสร้างความรู้ความเข้าใจ ที่จะให้อุบัติบนท้องถนนภายในมหาวิทยาลัยกรุงเทพลดจำนวนลง

อาจารย์ณรงค์ฤทธิ์ สินธุสังข์ ผู้อำนวยการฝ่ายอาคารสถานที่และภูมิทัศน์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ  กล่าวว่า มหาวิทยาลัยได้มีการควบคุมความเร็วของรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และรถประเภทอื่น ๆ ซึ่งตามมาตรฐานการของสถาบันการศึกษาทั่วไป จะมีการจำกัดความเร็วของยานพาหนะอยู่ที่ไม่เกิน 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งแม้ว่ามีการควบคุมความเร็วในมหาวิทยาลัย แต่ก็มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นอยู่เรื่อย ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นการขับรถเฉี่ยวชน ปัจจัยของการเกิดอุบัติเหตุมาจากการขับรถด้วยความประมาท รวมไปถึงผู้หัดขับขี่ที่ยังขับรถไม่คล่องแคล่วนัก

สำหรับนักศึกษาที่ฝ่าฝืนข้อบังคับการใช้รถหรือใช้ถนนด้วยความคึกคะนอง ขั้นแรกจะมีการตักเตือนผู้ละเมิดกฎของมหาวิทยาลัย ซึ่งถ้าเกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 จะดำเนินการทำเรื่องไปยังคณะที่นักศึกษาเรียนอยู่ เพื่อให้อาจารย์และบุคลากรในคณะอบรม เพื่อปรับเปลี่ยนวิสัยทัศนคติของนักศึกษา ทั้งนี้เชื่อว่านักศึกษาที่นำรถมาใช้ที่มหาวิทยาลัยล้วนมีวุฒิภาวะ รู้ว่าสิ่งใดควรปฏิบัติหรือไม่ควรปฏิบัติ เพราะนักศึกษาผ่านการเรียนรู้กฎจราจรมาแล้ว ก่อนที่จะขับรถ

อาจารย์ณรงค์ฤทธิ์อธิบายว่า “การควบคุมความเร็วรถภายในมหาวิทยาลัย มีมาตรการจำกัดความเร็วไม่เกิน 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นมาตรฐานของทางมหาวิทยาลัยอยู่แล้ว และคิดว่านักศึกษาส่วนใหญ่น่าจะเข้าใจว่าสิ่งไหนควรปฏิบัติหรือไม่ควรอย่างไร และอยู่ที่นักศึกษาว่าจะปฏิบัติตัวเองได้มากน้อยแค่ไหน ทั้งนี้หากนักศึกษาร่วมมือร่วมใจกันปฏิบัติตามกฎการขับขี่ที่มีภายในมหาวิทยาลัย จะช่วยป้องกันอุบัติเหตุได้”

มหาวิทยาลัยยังให้ความสำคัญกับเรื่องของวินัยการใช้ถนนในเรื่องต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการจอดรถ ซึ่งหากเจ้าหน้าที่พบว่านักศึกษาจอดรถในที่ห้ามจอด จะดำเนินการล็อกล้อ เนื่องจากจะส่งผลให้เกิดการจราจรติดขัดในบางจุด พร้อมกับแนบ ’ใบสีชมพู’ เพื่อเป็นการตักเตือน และลงบันทึกชื่อเพื่อเก็บเป็นข้อมูลตรวจสอบว่าจะเกิดซ้ำหรือไม่

“เราอยู่ในสังคม ไม่ได้อยู่เพียงแค่ในมหาวิทยาลัย เราต้องเคารพกฎ ซึ่งมันไม่ใช่กฎหมาย แต่มันเป็นสิ่งที่จะต้องปฏิบัติตาม เพื่อให้อยู่ในสังคมร่วมกันอย่างมีความสุข อยากให้เข้าใจตรงนี้ และเตรียมความพร้อมที่จะออกไปสู่สังคมภายนอก และเข้าใจถึงบริบทในสังคม” อาจารย์ณรงค์ฤทธิ์ สินธุสังข์ ผู้อำนวยการฝ่ายอาคารสถานที่และภูมิทัศน์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ กล่าว

นอกจากนี้ ยังมีมาตรการการดูแลสวัสดิภาพของนักศึกษา และบุคลากรที่ใช้ถนนในมหาวิทยาลัย ซึ่งเคยมีกรณีได้รับแจ้งว่า มีการรวมตัวเป็นกลุ่มขับขี่รถตลอดช่วงเย็นบริเวณลานจอดด้านหลังมหาวิทยาลัย โดยทางฝ่ายอาคาร ฯ ได้มีการชี้แจง และทำความเข้าใจกับกลุ่มดังกล่าว ในเรื่องของกรณีการควบคุมความเร็วในสถาบันการศึกษา ทางกลุ่มดังกล่าวเข้าใจ ให้ความร่วมมือเพื่อสวัสดิภาพ และความปลอดภัยของผู้ใช้ถนนในรั้วมหาวิทยาลัย

ด้าน คุณมารุต ผิวงาม เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำลานจอดรถ 6 ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัย ดูแลสวัสดิภาพของนักศึกษา และบุคลากรมาเป็นเวลา 10 ปี เห็นอุบัติเหตุจากการใช้รถภายในมหาวิทยาลัยค่อนข้างบ่อย

เหตุการณ์ที่หนักครั้งล่าสุดเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา มีนักศึกษาขับรถเร็วเสียหลักชนต้นไม้ อัดก๊อปปี้ บริเวณตึกคณะนิเทศศาสตร์ ซึ่งการเกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดจากความประมาทของนักศึกษา ขับรถเร็ว จึงทำให้ควบคุมรถไม่อยู่ และส่วนมากจะเป็นนักศึกษาที่เพิ่งเข้ามาใหม่ พออยู่ได้สักระยะ ประมาณหนึ่งปีหรือสองปี ก็เริ่มเข้าใจกฎระเบียบ และปฏิบัติตาม

คุณมารุต กล่าวต่อว่า จุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยที่สุดอยู่ที่บริเวณโค้งด้านหน้ากลุ่มอาคารนิเทศศาสตร์คอมเพล็กซ์ เนื่องจากเป็นจุดที่ต้องมีการเข้าโค้ง และมีรถจอดรับส่งคนตลอดเวลา ทำให้นักศึกษาบางครั้งขับรถด้วยความเร็ว จนอาจจะไม่สามารถควบคุมรถได้

“อยากจะฝากถึงน้อง ๆ นักศึกษาทุกคนให้มีจิตสำนึกในเรื่องของการขับขี่ ขอให้ใช้ความเร็วตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด เพื่อความปลอดภัยของทุกคน” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำลานจอดรถ 6 กล่าว

ขณะที่ ชินพัฒน์ พฤกษา นักศึกษาภาควิชาบรอดแคสต์ติ้งและวารสารศาสตร์ดิจิทัล คณะนิเทศศาสตร์ มองว่า มาตรการจำกัดความเร็วที่มหาวิทยาลัยกำหนดนั้น ถือว่าอยู่ในระดับมาตรฐานที่นักศึกษาสามารถปฏิบัติตามได้อยู่แล้ว และหากพูดถึงจุดเสี่ยง เช่น โค้งตึกนิเทศ ฯ คดเคี้ยว และมีผู้คนข้ามถนนตลอดเวลา ความเร็ว 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อาจจะถือว่าสูงไปด้วยซ้ำ

“ผมคิดว่าความเร็ว 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อยู่ในระดับมาตรฐาน ถ้าหากกำหนดให้มีความเร็วมากกว่านั้น อาจจะทำให้คนขับรถเร็ว หรือมีการชิ่งรถกัน โดยไม่นึกถึงนักศึกษาคนอื่น ยิ่งบริเวณโค้งหน้าตึกนิเทศ ฯ 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สำหรับผมถือว่าเร็วมากแล้ว เพราะถนนไม่ได้กว้าง และเป็นทางโค้ง เพราะฉะนั้นการมีมาตรการกำหนดความเร็วรถภายในสถานศึกษา จะช่วยให้รู้สึกปลอดภัยกับตัวเราเอง และนักศึกษาที่เดินข้ามถนน มั่นใจว่าปลอดภัยมากขึ้น” ชินพัฒน์แสดงความคิดเห็น