จุดสูงสุดในชีวิตของการทำงานเป็นผู้ฝึกสอนฟุตบอลของโค้ชหลายคน คือการเข้าไปรับงานคุมทีมชาติไทย เพื่อเป็นเกียรติประวัติให้ตนเองและครอบครัว แต่สำหรับ โค้ชโต่ย-ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย นั้นไม่เคยคิดถึงจุดนั้นเลย เพราะตอนที่เข้ามารับงานเป็นผู้ช่วยของ มิโลวาน ราเยวัช อดีตกุนซือทีมชาติไทย ตัวเขาคิดเพียงแค่ว่าจะทำหน้าที่ของตัวเองที่มอบหมายให้ดีที่สุดและช่วยทีมให้ได้มากที่สุด ไม่เคยหวังขึ้นไปคุมทีมเลย
แต่เหมือนฟ้าได้กำหนดเมื่อวันหนึ่งในระหว่างรายการ เอเชียนคัพ ผู้ใหญ่ในวงการได้เรียกตัวเขาไปพบพร้อมกับบอกให้เขาขึ้นไปรับหน้าที่ หัวหน้าผู้ฝึกสอนชั่วคราว ในการกู้วิกฤตทัพช้างศึก หลังจากนั้นชื่อของเขาเป็นที่จับตามองในหมู่แฟนบอลไทย
ผู้เขียนมีความชื่นชอบโค้ชเต่ยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงสนใจเรื่องราวชีวิตของอดีตกุนซือทีมชาติไทย จึงรวบรวมข้อมูลจากสื่อบอกเล่าเรื่องราวของโค้ชเต่ยที่ได้เคยให้สัมภาษณ์ไว้ ร้อยเรียงไทม์ไลน์การก้าวขึ้นเป็นโค้ชฟุตบอลทีมชาติไทยให้พวกเราได้ทำความรู้จักเขากันมากขึ้น
ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย เกิดที่อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม เป็นลูกคนเล็กในบรรดาพี่น้องทั้งหมด 4 คน ซึ่งคุณพ่อของเขารับราชการเป็นครูใหญ่ และมีคุณแม่เป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เขาเริ่มต้นเล่นฟุตบอลกับสโมสรแรกอย่าง ไทยน้ำทิพย์ ในช่วงที่เรียนชั้นมัธยมศึกษา แต่เป็นการเล่นในระยะสั้น ก่อนจะย้ายกลับไปเรียนต่อที่มหาสารคามควบคู่ไปกับการเล่นให้ทีมจังหวัดด้วย
จนกระทั่งเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ด้วยความรักในกีฬาลูกหนังเป็นอย่างมาก ทำให้เจ้าตัวอยากลองเดินตามเส้นทางนี้อีกครั้ง จึงนั่งรถทัวร์หวนคืนสู่กรุงเทพ โดยการเข้ามาศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัยกรุงเทพ
“ตอนจบ ม.6 คุณแม่บอกผมว่า ถ้ารักในการเล่นฟุตบอลก็ให้เข้ามาเรียนที่กรุงเทพ ก็เลยมาเรียนที่ ม.กรุงเทพ และก็ได้มาเล่นให้กับโอสถสภา”
เจ้าตัวเล่นให้กับ สโมสรโอสถสภา อยู่ถึง 9 ปีเต็มจึงแขวนสตั้ด และหันมาจับงานคุมทีม โดยเริ่มเป็นสตาฟโค้ชให้กับ โอสถสภา เป็นบทบาทที่ยังไม่ได้เกี่ยวข้องกับด้านเทคนิคมากนัก ทั้งการดูแลอุปกรณ์การฝึกซ้อม นำนักเตะลงไปวอร์ม ทำอาหาร ตลอดจนขับรถตู้รับส่งนักเตะ และไต่เต้ามาจนเป็นผู้ช่วยผู้ฝึกสอน ควบงานเฮดโค้ชเยาวชนของโอสถสภา ปลุกปั้นนักเตะมามากมาย เช่น ฉัตรชัย บุตรพรหม สุมัญญา ปุริสาย และศุภชัย ใจเด็ด และยังได้ย้ายไปทำอคาเดมี่ให้กับสโมสรอื่นอยู่เรื่อย ๆ จนมาถึงปี 2016 เขาได้รับการติดต่อให้เข้ามารับงานคุมทีมไทยฮอนด้า และภายในเวลาต่อมาก็พาไทยฮอนด้า ลาดกระบัง สร้างชื่อเสียงโดยพาทีมคว้าแชมป์ดิวิชัน 1 พร้อมกับตั๋วเลื่อนชั้นมาเล่นในโตโยต้าไทยลีกในฤดูกาลต่อมา
“ตอนเขามาติดต่อให้ไปรับงานผมเองก็ไม่มั่นใจเท่าไร เพราะเป็นเพียงผู้ช่วยมาตลอด แต่พอไปรับงาน ก็ทำสำเร็จได้แชมป์ ยามาฮ่าลีกวัน พาทีมเลื่อนชั้น”
ผลงานการคุมทีมไทยฮอนด้า บนลีกสูงสุดไม่เป็นดั่งที่หวัง เพราะ 11 นัดแรก ชนะได้เพียง 3 นัดเท่านั้น ทำให้เขาถูกสั่งปลดออกจากตำแหน่งกุนซือทันที
หลังจากว่างงานได้ไม่นาน ทางสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยได้มีการคัดเลือกตำแหน่งผู้ช่วยผู้ฝึกสอนของกุนซือทีมชาติไทย มิโลวาน ราเยวัช และเจ้าตัวได้รับการคัดเลือกเข้ามาทำหน้าที่ในตำแหน่งดังกล่าว
“รู้สึกช็อคไปเหมือนกัน เพราะในชีวิตไม่เคยคิดว่าตัวเองจะต้องมาทำงานในระดับทีมชาติ เพราะที่ผ่านมามันดูห่างไกลไปอย่างมาก”
ซึ่งบทบาทหน้าที่ของ ศิริศักดิ์ คือการเข้าไปช่วยเหลือในเรื่องโปรแกรมการฝึกซ้อมว่ามีความเหมาะสมหรือต้องปรับปรุงในส่วนใด แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อเริ่มทัวร์นาเมตน์ เอเชียนคัพ 2019 ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เกิดเหตุการณ์ฟ้าผ่าขึ้นในแคมป์ทีมชาติไทยหลังจบการประเดิมสนามนัดแรกในการโดนทีมชาติอินเดีย ถล่ม 4-1 สมาคมฟุตบอลไทยสั่งปลด มิโลวาน ราเยวัช เซ่นผลงานนัดแรกทันที
หลังจากประกาศปลด มิโลวาน ราเยวัช ได้ไม่กี่ชั่วโมง มีข่าวแต่งตั้ง “ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย” ขึ้นมาทำหน้าที่เฮดโค้ชแทน และตั้งโค้ชโชค-โชคทวี พรหมรัตน์ ขึ้นมาเป็นผู้ช่วย สร้างความฮือฮาให้กับสื่อและแฟนบอลไทยเป็นอย่างมาก
“อยู่ดี ๆ เขาเอามงกุฏมาครอบให้ ก็ถามตัวเอง มันก็ไม่ยากนะ แต่มันครั้งแรกในชีวิต ตอนที่ผู้ใหญ่ถาม ผมก็หันไปถามน้อง ๆ ว่าเอาไหม พวกเขาก็ตอบว่า เอาสิพี่”
แต่เหมือนจะเป็นทางสมาคมที่มองคนถูก เพราะศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย ไม่ทำให้ชาวไทยผิดหวัง เขาปลุกกำลังใจนักเตะให้ฮึดสู้และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมโดยเอาชนะทีมชาติบาเรน ไป 1-0 และยังเสมอเจ้าภาพ ยูเออี พาทีมพลิกเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายในรอบ 47 ปีของทัพช้างศึก สร้างความดีใจให้กับแฟนบอลชาวไทยเป็นอย่างมาก ถึงแม้พวกเขาจะต้องหยุดเส้นทางไว้แค่รอบต่อไปหลังพ่ายให้กับทีมชาติจีนไป 2-1 แต่ถือเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมของกุนซือซึ่งขัดต่อทัพและทีมชุดนี้เป็นอย่างมาก
หลังจากศึกครั้งนั้นเขาได้รับความไว้วางใจจากทางสมาคมให้คุมทีมต่อในการลุย ไชน่า คัพ โดยทีมเจอปัญหาผู้เล่นถอนตัวก่อนแข่ง 7-8 รายก่อนไปเดินทางไปแข่ง 2-3 วัน แต่สามารถเอาชนะจีนไป 1-0 และเข้าชิงชนะเลิศเจอกับอุรุกวัย โดยแพ้ไปด้วยสกอร์ 0-4 ก่อนที่เส้นทางในนามกุนซือทีมชาติไทยของเจ้าตัวได้ยุติลงหลังจากพาทีมลงเล่นในรายการ คิงส์ คัพ ครั้งที่ 47 เจ้าตัวพาทีมพ่ายให้กับ เวียดนามไป 0-1 และแพ้ให้กับการชิงที่ 3 จบด้วยการเป็นอันดับสุดท้ายและยิงประตูใครไม่ได้ ก่อนที่เจ้าตัวจะขอยุติบทบาทในนามทีมชาติไทย
“ครั้งหนึ่งในชีวิต ชีวิตของผมถูกจารึกไว้แล้ว ถ้ามีเอเชียนคัพ ทุกครั้งก็จะมีคนพูดว่า ผมเป็นโค้ชขัดตาทัพที่พาทีมชาติไทยเข้ารอบ 16 ทีม ยอดญาติไทย จะอยู่กับผมไปจนวันตาย”
ถึงแม้จะเป็นการคุมทีมชาติไทยในระยะสั้น สำหรับเขาถือว่ามาไกลเกินฝันแล้ว เมื่อสองปีก่อนยังคุมทีมเล็กอย่างไทยฮอนด้า วันนี้เลื่อนมาอยู่ในจุดที่แม้แต่ตัวเองยังคาดไม่ถึง กับโชคชะตาชีวิตที่สถานการณ์กลายเป็นตัวแปรสำคัญในการสถาปนาตัวเขาให้เป็นวีรบุรุษ แม้โอกาสที่ได้รับจะมาในสถานการณ์ที่ไม่ค่อยพร้อมนักก็ตาม แต่เขาก็ทำทุกอย่างด้วยความตั้งใจและเต็มที่กับทุกงานที่ได้ทำ
Reference & Bibliography
- โค้ชโต่ย ศิริศักดิ์ ชมพลังสามัคคีนักเตะ โค้ช ทีมงาน พาไทยเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายเอเชียนคัพ 2019โดย ดิษยุตม์ ธนบุญชัย. สืบค้นเมื่อ 5 กุมภาพันธ์ 2564 จาก, https://thestandard.co/sirisak-yodyardthai
- Press Box2 : EP.13 | ย้อนรอยชีวิตสุดพลิกผันของ…ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย ในหนึ่งปีที่ผ่านมา. สืบค้นเมื่อ 5 กุมภาพันธ์ 2564 จาก, https://www.youtube.com/watch?v=-GRKxQUcAZg
- 10 เรื่องที่คุณอาจยังไม่รู้ของ “โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย. สืบค้นเมื่อ 5 กุมภาพันธ์ 2564 จาก, https://www.siamsport.co.th/football/thailandnational/view/110824
- ฟุตบอลต่างประเทศ. สืบค้นเมื่อ 5 กุมภาพันธ์ 2564 จาก, www.siamsport.co.th/football, www.kapook.com, www.mthai.com, www.springnews.co.th, www.matichon.co.th, www.sanook.com
Additional Information
ผลงานชิ้นนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา CJR411,JR413 Newspaper Workshop, CJR413,JR414 Magazine Workshop ภาคการศึกษาที่ 2/2563 คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ อาจารย์ที่ปรึกษา ผศ.ณรงค์ศักดิ์ ศรีทานันท์