อุบัติเหตุจากรถจักรยานยนต์คือบทเรียนเปลี่ยนชีวิต

อุบัติเหตุเป็นเรื่องไม่คาดคิดสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา และเกิดขึ้นโดยไม่มีสิ่งบอกเหตุล่วงหน้า อุบัติเหตุ คือ เหตุการณ์ทางกายภาพที่เมื่อเกิดขึ้นแล้วทำให้มีการได้รับบาดเจ็บ รวมถึงสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน อุบัติเหตุมีทั้งที่เกิดขึ้นภายในบ้านและเกิดขึ้นในพื้นที่สาธารณะ

อุบัติเหตุบนท้องถนนในพื้นที่สาธารณะ เป็นประเด็นหลักที่เราจะกล่าวถึง จากข้อมูลขององค์กรอนามัยโลก (World Health Organization: WHO) ที่รายงานไว้เมื่อปีพ.ศ.2560 ประเทศไทยมีสถิติการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นอันดับ 1 ของโลก ทั้งนี้ในปีพ.ศ.2561 อันดับของไทยขยับลดลง แต่โดยภาพรวมยังคงติดอันดับ 9 ของโลก อย่างไรก็ตาม ข้อมูลในปีพ.ศ.2561 จาก WHO ระบุไว้ว่า การเสียชีวิตจากอุบัติเหตุโดยรถจักรยานยนต์ของไทย ยังคงครองอันดับ 1 ของโลก

อาจจะเป็นเพราะรถจักรยานยนต์ ราคาไม่สูง หาซื้อได้ง่าย และยังสะดวกสบายในการเดินทาง สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ เช่น การฝ่าฝืนกฎจราจร การขาดวินัยในการขับขี่ รวมถึงเหตุการณ์ไม่คาดคิดอื่น ๆ ก็เป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุได้

เราขอพาไปพูดคุยกับผู้ที่เคยมีประสบการณ์ประสบอุบัติจากรถจักรยานยนต์ พวกเขาได้ย้อนทบทวนเหตุการณ์ให้เราฟัง เพื่อให้เราได้เรียนรู้ประสบการณ์ และป้องกันตนเองจากการเกิดอุบัติเหตุ

กรณีแรกเป็นเรื่องของ คุณภูริณัฐ สีเหลือง นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เรื่องนั้นเกิดขึ้นตอนที่เขาเรียนชั้นปีที่ 2 ซึ่งวันนั้นเป็นวันสอบวันสุดท้าย เขากับเพื่อนจึงนัดสังสรรค์กันที่ร้านอาหาร หลังจากสังสรรค์ ก็ขับรถจักรยานยนต์เพื่อเดินทางกลับมาหอพักของตนเอง ระหว่างทางเขาควบคุมรถไม่อยู่ จึงเสียหลักแหกโค้งช่วงสะพานกลับรถ ก่อนที่จะถึงที่พัก โชคดีเพื่อนที่ขับรถตามมาเห็นเหตุการณ์ เพื่อนได้เข้าช่วยเหลือ พร้อมกับปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนพาไปส่งโรงพยาบาล

เขาได้เล่าต่อว่า ตอนนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเอ็นขาด ผ่านไปสองวันถึงรู้สึกว่าทำไมตัวเองกระดิกขาหรือนั่งไขว่ห้างไม่ได้ คุณหมอบอกว่า น่าจะเอ็นขาด จึงย้ายจากโรงพยาบาลที่รักษาตัวอยู่ ไปที่โรงพยาบาลอีกแห่ง เพื่อรักษาต่อเนื่อง และรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลหนึ่งเดือนเต็ม และหลังจากนั้นจึงใช้ไม้ค้ำช่วยในการเดินอยู่สองเดือน เมื่อหายแล้วทุกวันนี้ก็ยังรู้สึกเจ็บอยู่บ้างเวลาเดิน บทเรียนที่ได้จากเหตุการณ์ ทำให้สตางค์ระมัดระวังในการเดินทางมากขึ้น

กรณีถัดมาที่เราจะนำมาบอกเล่ากัน เป็นเรื่องราวของ คุณวนิดา คิดอยู่ นักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ประสบอุบัติเหตุจากความบกพร่องของเส้นทางการสัญจร พร้อมทั้งสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย เรื่องนั้นเกิดขึ้นตอนเธอเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนได้จัดกิจกรรมงานวันพ่อ และเธอได้รับเลือกให้ขึ้นแสดงรำในงานวันพ่อ ทำให้ต้องเดินทางไปโรงเรียนตั้งแต่เช้ามืด เธอขับรถจักรยานยนต์ไปโรงเรียน ถนนที่ใช้สัญจรไปยังโรงเรียนเป็นเส้นทางเดินรถของรถบรรทุก วิ่งผ่านไปมาเป็นประจำ ทำให้ถนนเกิดความชำรุดและเกิดเป็นหลุมเป็นบ่อ

วันนั้นฝนเพิ่งตก น้ำท่วมบนถนน มองไม่เห็นหลุมบ่อ เธอรีบมากจนไม่ทันระวัง จึงขับรถตกลงไปในหลุมจนเสียหลักล้ม ทำให้เธอได้รับบาดเจ็บหลายที่ แต่โชคดีที่ไม่ได้ร้ายแรงถึงขั้นต้องนอนโรงพยาบาล เธอยังจดจำเหตุการณ์ได้จนถึงทุกวันนี้ และบอกกับตัวเองเสมอว่า ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงที่สภาพอากาศไม่ดี และเลือกเส้นทางที่ปลอดภัย

กรณีสุดท้ายที่เราได้ไปพูดคุย คุณกัลย์ภัส เทียนจันทร์ นักศึกษาคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา วันที่เธอประสบอุบัติเหตุว่า มีสอบปลายภาคแต่เช้า ด้วยความรีบ กลัวจะไปสาย จึงขับรถจักรยานยนต์จากหอพัก เพื่อจะไปสอบที่มหาวิทยาลัย ขณะนั้นก็มีนักศึกษาผู้ชายคนหนึ่งเดินลงมาจากฟุตปาธ ทำให้เธอต้องเบรกรถกะทันหันจนเสียหลักล้ม

อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะความเร่งรีบ ไม่ระมัดระวัง ทำให้ได้รับบาดเจ็บจนเดินไม่ได้ ต้องกลับไปพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านต่างจังหวัด นานเป็นเวลาสองเดือนเต็ม โดยมีพ่อแม่ดูแลจนหายดี และกลับมาเรียนตามปกติ เธอย้อนทบทวนอุบัติเหตุในครั้งนั้นให้เราฟัง ทำให้เธอสัญญากับตัวเองว่าจะไม่เร่งรีบหรือประมาทอีกต่อไป

บทเรียนจากการประสบอุบัติเหตุในวันนั้น ทำให้พวกเขามีความระมัดระวังมากขึ้น การหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุที่ดีที่สุดคือการทำตามกฎหมายการจราจรอย่างเคร่งครัด และใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท เตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดอยู่เสมอ