โลกเราทุกวันนี้ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวกระโดดไปอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้พฤติกรรมของคนในวัยต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งกลุ่มที่เห็นได้ชัด คือ ‘เด็ก Gen Z’ ที่มาพร้อมกับความมั่นใจในตัวเองสูง ซึ่งตอนนี้พวกเขาเริ่มเติบโตเป็นผู้ใหญ่การปรับตัวจึงเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก
‘เด็กยุคใหม่’ กับอาการที่น่าเป็นห่วง ในวันที่ถูกเทคโนโลยีครอบงำ โดยเฉพาะกระแสโซเชียลมิเดียค่อนข้างมาแรงอย่างมากและแน่นอนว่ายิ่งในกลุ่มเจเนอเรชั่นที่เกิดในช่วงปลายปี ค.ศ.1990 และตั้งแต่ปี ค.ศ.2000 เป็นต้นไป หรือที่เราเรียกกันว่า กลุ่ม Gen Z กลุ่มเด็กรุ่นใหม่ที่เติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ในปัจจุบันเข้าถึงง่ายเสียเหลือเกิน เรามาเช็กกันว่า เรามีพฤติกรรมหรืออาการที่ยกมาหรือไม่
สมาธิสั้น เกิดจากการอยู่กับเทคโนโลยีมากไปทำให้สมาธิถดถอยลง ซึ่งปัญหานี้พบได้ตั้งแต่เด็กอายุ 5 ปี ไปจนไปถึงเด็กวัยรุ่นตอนปลาย ซึ่งแน่นอนว่าส่งผลเสียในหลายด้านทั้งการเรียน การใช้ชีวิตประจำวัน โดยคนที่มีสมาธิสั้น มักมีอาการ คือ อยู่นิ่งไม่ได้ ไม่มีสมาธิจดจ่อกับสิ่งที่ทำ ไม่ฟัง ไม่ชอบรอ โดยหากไม่รักษาให้ทันท่วงที ก็จะเกิดผลกระทบระยะยาวในอนาคตแน่นอน
เรียกร้องความสนใจ เชื่อว่าต้องเคยพบเห็นในสังคมปัจจุบันแน่นอนและขอบอกเลยว่ามันอันตรายกว่าที่คิดมาก เพราะแต่ละคนมีการแสดงออกที่แตกต่างกันไป มักพบได้ในสื่อโซเชียลออนไลน์ เช่น ชอบโพสต์หรือแสดงออกให้ผู้คนสนใจเพื่อหวังเรียกยอดไลก์จากโลกออนไลน์ หรือบางคนร้ายแรงถึงขั้นโพสต์ทำร้ายตัวเอง ชอบสร้างเรื่อง สร้างกระแส เพื่อต้องการเป็นจุดสนใจจากเพื่อนและสังคมรอบข้าง เพราะไม่อยากให้ตัวเองรู้สึกโดดเดี่ยว
จอประสาทตาเสื่อม ภัยเงียบที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี ซึ่งแต่ก่อนอาการนี้พบแค่ในผู้สูงอายุ แต่ตอนนี้ก็เจอได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่เพราะอย่างที่เรารู้กันดีว่าในสังคมตอนนี้กลายเป็นยุคของสังคมก้มหน้า ทุกคนจับจ้องโทรศัพท์มือถือ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์อยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่ตื่นนอนจนถึงเข้านอน โดยสาเหตุหลักของโรคนี้มาจากการที่จ้องหน้าจอนานเกินไปไม่ว่าจะจากการใช้คอมพิวเตอร์ เล่นโทรศัพท์มือถือ เล่นแท็บเล็ต หรือแค่นั่งดูโทรทัศน์ โดยคนที่เป็นมักมีอาการ มองเห็นภาพไม่ชัดเจน เห็นภาพบิดเบี้ยว ตามัว ๆ ถ้ามีอาการแบบนี้ ควรพักสายตาสักพัก หรือออกไปทำกิจกรรมอย่างอื่น แต่ถ้าเป็นหนักควรไปพบแพทย์ด่วน
หมด Passion ในการทำงาน ไม่ว่าจะเรียนหรือทำงาน เราคงเคยมีอาการรู้สึกหมดไฟและคอยตั้งคำถามอยู่เสมอว่าสิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้เราชอบหรือใช่ตัวเราจริง ๆ หรือเปล่า โดยอาการที่มักพบบ่อย คือ ไม่อยากคิด ไม่อยากทำ เบื่อกับสิ่งที่ทำอยู่ ไม่มีความสุข อ่อนล้า ซึ่งอาการเหล่านี้อาจเกิดจากการที่เรากดดันตัวเองมากเกินไป จนขาดความเชื่อมั่นในตัวเอง ถ้าผู้อ่านรู้สึกว่ามีอาการแบบนี้ แนะนำว่าลองออกไปเที่ยว ไปใช้ชีวิตหาตัวตนของตัวเองให้เจอ เพื่อปลุกไฟในตัวเอง
เก็บตัว ไม่กล้าเข้าสังคม การอยู่กับเทคโนโลยีมากไป โลกส่วนตัวจะสูงขึ้นและทำให้การเข้าสังคมเป็นเรื่องที่ยากสำหรับเด็กยุคนี้ ขาดความมั่นใจ กลัวการเจอคนหมู่มาก เข้ากับคนอื่นไม่เป็น หากคิดว่าตัวเองเริ่มมีอาการเก็บตัว ไม่อยากสุงสิงกับใคร อย่าชะล่าใจกับอาการที่เป็นอยู่โดยเด็ดขาด เพราะอาจส่งผลในระยะยาวที่สายเกินแก้
นี่เป็นเพียง 5 อาการที่พบได้ใน Gen Z ขอเพียงแค่ทุกคนเข้าใจ สังเกตคนใกล้ชิด แค่นี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากแล้วที่เราจะสามารถเข้าถึงในโลกของกลุ่มเจเนอเรชันที่เรียกได้ว่าเป็น เจนเนอเรชันที่เข้าใจยากที่สุด เพราะ ‘ผ้าขาว’ อย่างไรก็เป็น ‘ผ้าขาว’ เปรียบเสมือนเด็กที่บริสุทธ์ อยากให้เขาเป็นสีอะไรก็อยู่ที่ว่าเราจะแต่งแต้มและสอนเขาให้อยู่ในสังคมอย่างไรให้เป็น หากอนาคตของชาติมัวแต่ก้มหน้าเล่นมือถือ สุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง ประเทศจะพัฒนาได้อย่างไร จริงไหม
Reference & Bibliography
- สมาธิสั้นใกล้ตัวเด็กกว่าที่คิด. สืบค้นเมื่อวันที่ 10 ก.ย.2562 จาก, https://www.bangkokhospital.com/th/disease-treatment/adhd-disorder
- โรคเรียกร้องความสนใจ จาก “ออย Hormones” อันตรายกว่าที่คิด. สืบค้นเมื่อวันที่ 10 ก.ย.2562 จาก, https://www.sanook.com/health/2073
- 6 วิธีปลุกแพชชั่นในตัวคุณให้กลับมาลุกโชน #หมดpassion. สืบค้นเมื่อวันที่ 10 ก.ย.2562 จาก, https://www.mangozero.com/6-ways-to-get-your-passion-back
- เล่นมือถือนานทำจอประสาทตาเสื่อมเร็ว. สืบค้นเมื่อวันที่ 10 ก.ย.2562 จาก, https://www.thaihealth.or.th/Content/27605-เล่นมือถือนานทำจอประสาทตาเสื่อมเร็ว.html
- หมอเคลียร์ อย่าแตกตื่นดูมือถือมากทำเด็กตาเข ต้องห่วงจอประสาทตาเสื่อมมากกว่า !! สืบค้นเมื่อวันที่ 10 ก.ย.2562 จาก, https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_580421
Additional Information
ผลงานเขียนชิ้นนี้