ถอดบทเรียนเดอะซิมส์ (The Sims) เกมสร้างคน ได้เรียนรู้มากกว่าความสนุก

Virtual Life ชีวิตยุคดิจิทัลในโลกอนาคตกำลังใกล้ความเป็นจริงเข้ามาทุกขณะ จะว่าไปแล้ว เราเรียนรู้ชีวิตเสมือนจริงผ่านโลกของเกมมายาวนาน โดยเฉพาะเด็กที่เติบโตมากับเกม พวกเขาจำลองชีวิตของตนเองผ่านเกม หนึ่งในนั้นคือ เกมเดอะซิมส์ (The Sims) ที่ยังสามารถทำตลาดและครองใจคอเกมได้ถึงทุกวันนี้

เกมเดอะซิมส์ (The Sims) เป็นหนึ่งในเกมที่คลาสสิคและครองใจผู้เล่นทั่วโลกอย่างต่อเนื่องยาวนาน ผู้สร้างเกมคือ William Ralph Wright นักออกแบบเกมชาวอเมริกัน เขาได้แรงบันดาลใจในการสร้างเกม หลังจากที่บ้านของเขาในรัฐ Oakland ประสบเหตุไฟไหม้ครั้งใหญ่เมื่อปีค.ศ.1991 ทุกอย่างในชีวิตจึงต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ จึงเป็นที่มาของการสร้างเกมสุดฮิตที่ทุกคนน่าจะเคยเล่นผ่านตามาบ้าง

เดอะซิมส์ ออกวางจำหน่ายในรูปแบบวิดีโอเกมตั้งแต่ปีพ.ศ.2543 โดยผู้เล่นสามารถควบคุมและสร้างโลกจำลองของตนเอง ผ่านตัวละครซิมส์ ผู้เล่นเปรียบเสมือนได้เข้าไปใช้ชีวิตในโลกของซิมส์ มีหน้าที่ควบคุมวางแผน คิด ตัดสินใจ ควบคุมการดำเนินชีวิตของตัวละครในซิมส์ ทั้งเรื่องการเรียน การทำงาน ชีวิต และความสัมพันธ์ ผู้เล่นต้องทำให้ชีวิตภายในเกมของตัวละครซิมส์ดำเนินไปได้อย่างดี โดยเรียนรู้และรับมือกับปัญหาและอุปสรรคที่ผ่านเข้ามา

คนที่เคยมีประสบการณ์เล่นเกมเดอะซิมส์ค้นพบว่า เกมมีประโยชน์ ให้ข้อคิดในการใช้ชีวิต เรามาถอดบทเรียนกันว่าเกมมีความน่าสนใจและทำให้ผู้เล่นได้เรียนรู้อะไรบ้าง ตามเรามาเรียนรู้ชีวิตไปพร้อมกันเลย

ระหว่างเล่นเกมเดอะซิมส์อยู่หน้าจอ หากใคร่ครวญให้ดี เกมนี้ก็ช่วยเพิ่มทักษะชีวิตให้เรา เพราะเราต้องคิด วางกลยุทธ์ชีวิตให้กับตัวละครในซิมส์ ตัวละครที่เราดูแลฟูมฟักต้องมีทักษะชีวิตหลายอย่าง การคิดวางแผนในเกมยังจุดประกายให้เรานั้นอยากจะลุกขึ้นมา กล้าที่จะทำในชีวิตจริงอีกด้วย

ไม่ว่าจะเป็นทักษะในการวาดรูป เล่นดนตรี การเต้น งานช่างและอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ละทักษะก็ต้องใช้การฝึกฝน ทำอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าเกมก็มีสูตรลัดที่เรียกว่าสูตรโกงที่ผู้เล่นพิมพ์เข้าไปได้ ทว่าความสนุกในเล่นก็อาจจะหายไป ทำให้ผู้เล่นเรียนรู้ว่าบางอย่างไม่สามารถรีบร้อนได้แต่ต้องอาศัยการฝึกฝน และการไต่ระดับไป ผลที่เราได้ก็มีค่าเสมอ ทำให้หลายคนเกิดแรงบันดาลใจในชีวิตจริง ที่อยากเรียนเปียโน กีต้าร์ กลอง การเต้น เล่นหมากรุก ทำอาหาร นับเป็นเกมที่สร้างแรงบันดาลใจให้เราตั้งแต่เด็กจนโต

การเล่นเกมซิมส์ต้องคิดและออกแบบชีวิตอยู่เสมอ ตัวเกมให้ผู้เล่นออกแบบหรือสร้างแบบบ้านได้ สิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือตัวซิมส์หรือตัวละครของเรา เราต้องสร้างสมาชิกขึ้นมา ผู้เล่นสามารถสร้างซิมส์ในจินตนาการของเราออกมาได้

เริ่มสร้างได้ตั้งแต่เด็ก วัยฝึกเดิน เด็กประถม วัยรุ่น วัยหนุ่มสาว จวบจนกระทั่งวัยผู้ใหญ่ จนไปถึงวัยชรา แต่ข้อจำกัดของเกมคือมีเสื้อผ้า เครื่องประดับที่จำกัด สำหรับตัวละครไม่มากนัก ทำให้ดีไซเนอร์อย่างเราแอบมีความขัดใจตรงนี้

ผู้พัฒนาได้เปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถโหลดเสื้อผ้าจากเว็ปไซต์ต่าง ๆ หรือที่ชาวซิมส์อย่างเราเรียกว่า Mod และเรายังสามารถออกแบบเสื้อผ้าและเครื่องประดับ เป็น Mod ของเราเองและนำไปแจกออนไลน์ หรือขายเป็นเงินจากการขาย นับว่าเป็นการออกแบบเกมที่ชาญฉลาดและยังเปิดโอกาสให้ผู้เล่นมีส่วนร่วมอีกด้วย

ความสมจริงของเดอะซิมส์ยังไม่หมด สิ่งที่น่าตื่นเต้นกว่านั้นคือการสร้างอาชีพให้กับตัวละครซิมส์ของเรา เกมที่จะพาผู้เล่นไปสร้างจินตนาการในการทำงานที่เสมือนจริงตั้งแต่ Beginning ไปจนถึงเป็น CEO บริหารธุรกิจ ซึ่งเป็นการสอนเราในการเตรียมตัวรับกับชีวิตจริงในอนาคต

เราอาจจะมองความเท่าเทียมในแต่ละอาชีพไม่เท่ากัน ทั้งนี้เดอะซิมส์จะพาเราทุกคนไปทำอาชีพที่หลากหลายและสอนให้เราเคารพในสิ่งที่เราทำ เพราะทุกอาชีพนั้นมีความสำคัญในระบบสังคมทั้งสิ้น อาชีพมีทั้งนักร้อง นักแสดง อินฟลูเอนเซอร์ ตำรวจ คนส่งจดหมาย นักข่าว นักธุรกิจ แม่บ้าน คนสวน นักดับเพลิง นักบินอวกาศ และอีกหลากหลาย แน่นอนว่าในโลกอนาคตจากนี้ไป เราคงไม่ได้ทำอาชีพเดียวอย่างแน่นอน

คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเมื่อเราเล่นเดอะซิมส์ การสร้างบ้านและออกแบบบ้านให้น่าอยู่เป็นเสน่ห์หรือจุดขายของเกม เพราะตั้งแต่แรกเกมถูกสร้างมา เพื่อให้ผู้เล่นได้ออกแบบบ้าน เป็นสถาปนิก และตกแต่งบ้านของตนเอง เกมได้รับความนิยมมากขึ้น จึงมีลูกเล่นสร้างสรรค์ตามมาเอาใจคอเกมอีกมากมาย

เพราะฉะนั้นสิ่งที่ยังคงเป็นซิกเนเจอร์ของเกมเสมอคือการสร้างบ้าน ถ้าสังเกตจะเห็นโลโก้ของเดอะซิมส์ในภาคแรกเป็นรูปหลังคาบ้านอยู่ด้านบนคำว่า The Sims และภาคต่อมาจึงเปลี่ยนเป็นแท่งชีวิตบ่งบอกถึงเดอะซิมส์ไม่ใช่แค่เกมสร้างบ้านเพียงอย่างเดียวแต่เป็นเกมสร้างชีวิต และบริหารชีวิตซิมหรือตัวละครในเกม

หากถามคนที่เรียนสถาปัตย์ คนทำงานสถาปนิก ออกแบบตกแต่งภายใน หนึ่งในต้องเคยเล่นเดอะซิมส์ในวัยเด็ก เพราะเป็นเกมแรกที่เราสามารถออกแบบบ้าน และสถานที่ส่วนกลางในบ้านอย่างไร้ขอบเขต เราเป็นผู้รังสรรค์และเป็นผู้กำหนด คนจำนวนมากออกแบบบ้านในเดอะซิมส์ช่วงวัยเด็ก และเมื่อโตขึ้นพวกเขานำบ้านในฝันไปสร้างเป็นบ้านของตนเอง

หลายคนได้เรียนรู้ทักษะการออกแบบและเป็นจุดเริ่มต้นในวงการสถาปนิก ด้วยที่ตัวเกมมีโหมดก่อสร้างที่หลากหลายต่อความต้องการของผู้เล่นทำให้เด็กหรือแม้แต้ผู้ใหญ่ก็สามารถสร้างบ้านหรือสถานที่เราจินตนาการได้ตามต้องการ เติมเต็มความฝันเรื่องการมีบ้านที่อบอุ่นได้อีกด้วย

ความสัมพันธ์ในเกมที่มีหลากหลายรูปแบบ ทำให้ผู้เล่นเรียนรู้และเปิดกว้างในเรื่องความสัมพันธ์และความรักในรูปแบบที่แตกต่างกัน ผู้เล่นจะได้เป็นผู้สร้างตัวละครและกำหนดความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น พัฒนาการของตัวละครในเกมที่เติบโตขึ้นจากเด็ก วัยรุ่น วัยผู้ใหญ่ จนไปถึงวัยชรา เราก็จะได้เห็นพัฒนาการของความรักและความสัมพันธ์ด้วย

สิ่งที่น่าสนใจ ผู้สร้างเกมได้เปิดพื้นที่ให้กับความหลากหลายทางเพศมากขึ้น ไม่ได้จำกัดว่าการสร้างครอบครัวหรือความรักในเกมจึงต้องเป็นการสร้างครอบครัวแบบชายรักกับหญิงเท่านั้น ความสัมพันธ์ของคู่รักเพศเดียวกันก็สามารถเกิดขึ้นได้ในเกม การเล่นเกมเดอะซิมส์เพื่อเรียนรู้ อาจจะทำให้เราได้เปิดมุมมองทางความคิดเรื่องความรักและความสัมพันธ์มากขึ้นอีกด้วย

เรื่องราวในโลกของซิมส์เกี่ยวข้องกับหลากหลายตัวละคร ความรัก ความสัมพันธ์ การสร้างครอบครัว ตัวละครลูกที่เติบโตมาจากซิมส์ที่ผู้เล่นสร้าง จะเติบโตเป็นเด็กก้าวร้าว เด็กดีมีมารยาท ร่าเริงแจ่งใส มีความคิดสร้างสรรค์ ล้วนแล้วแต่ที่เราสอนพวกเขาและเราใส่ใจเขามากเพียงใด เสริมสร้างทักษะอะไรให้เขา เมื่อลูกของเราในเกมทำผิดจะมี Pop up ขึ้นมาว่าให้เขาทำต่อไป หรือเราจะดุและสอนว่านั่นคือสิ่งไม่ดี เพราะฉะนั้นการเลี้ยงดูของแต่ละผู้เล่นก็จะแตกต่างกันออกไป

สิ่งหนึ่งที่เราได้จากการรับบทบาทเป็นคุณพ่อคุณแม่ เราได้รับรู้มุมมองของคุณพ่อคุณแม่ของเรา เข้าใจความรู้สึกท่าน เมื่อเลี้ยงเรามา และเราจะหวนกลับไปคิดถึงเมื่อตอนเราเป็นเด็ก ได้ย้อนกลับไปมองในสิ่งที่เราเคยทำพลาด ทบทวนว่าเราเติบโตมาอย่างไร เข้าใจความสัมพันธ์ในครอบครัวมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นเราจะได้ฝึกเตรียมพร้อมกับการมีครอบครัวในอนาคต

ที่กล่าวมาเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่เราได้เรียนรู้จากโลกของเกมเดอะซิมส์ เล่นเกมให้สร้างสรรค์ เล่นเกมให้ได้ประโยชน์ เรียนรู้จากเกมและย้อนกลับมาทบทวนถึงชีวิตของเราเอง ภายในเกมเราคือผู้ควบคุมตัวละครซิมส์ ทั้งด้านการเรียนรู้ การคิด การพัฒนาทักษะใช้ชีวิต และการตัดสินใจ เช่นเดียวกับชีวิตของเรา ที่ต้องมีสติ อย่าลืมว่าคุณเป็นผู้กำหนดชีวิตของตัวคุณเอง