ในที่สุดผมก็ได้มาเยือนเมืองแห่งนี้ที่ผมฝันไว้ตั้งแต่เด็ก ผมเดินไปรอบเมืองแล้วพบกับร้านค้าที่ดูน่าพิศวงอยู่ตรงหน้าโดยไม่มีชื่อร้านและไม่มีใครสังเกตเห็นเลย ยิ่งทำให้ผมสงสัยมากขึ้น ผมลองเดินเข้าไปในนั้น จึงได้พบกับหญิงสาวที่ดูน่ารักน่าเอ็นดู เธอพูดกับผมว่า “โช การที่นายเข้ามาในร้านนี้ได้คือ ผู้ถูกเลือกแห่งโชคชะตา” ประโยคนั้นทำให้ผมสงสัยมากขึ้นว่าทำไมเธอถึงรู้ชื่อของผม

เธอพูดต่อว่าตอนนี้นายคงมีเรื่องที่อยากจะถามฉันอยู่มากมาย นายช่วยรอให้ฉันพูดจบก่อนได้ไหม ฉันมีชื่อว่า “เนโคร” เป็นผู้ดูแลของร้านวิลออฟควีน ที่นี่มีแต่ของต้องสาปและเวทมนต์ ถึงเวลาของนายแล้วอยากถามอะไรก็เชิญ ทำไหมถึงรู้ชื่อของผม เธอตอบกลับมาว่า เพราะฉันเป็นแม่มด แต่ท่าทางของเธอกลับดูไม่เหมือนแม่มดเลย เธอคือหญิงสาวที่มีความเป็นมิตรต่อผู้ที่มาเยือน

ทำไมผมถึงเป็นผู้ถูกเลือกแห่งโชคชะตา ทั้งที่มีคนดีกว่าเหมาะกว่าผมอีกมากมาย ทำไมถึงเป็นผม เธอเพียงแต่ยิ้มแล้วก็พูดว่า เพราะนายเป็นคนที่สามารถจะกำหนดโชคชะตาของตัวเอง โดยที่ไม่มีอะไรเข้ามาแทรกแซงได้แต่ตอนนี้นายอาจจะยังไม่รู้ตัว ระหว่างการเดินทางนายจะเริ่มเข้าใจในสิ่งที่ฉันพูดเอง แล้วตอนนี้นายยังสงสัยอะไรอีกไหม ผมตอบกลับไปว่าไม่มี ฉันขอตัวก่อนเชิญตามสบาย เธอบอกกับผมก่อนจะเดินลับหายไป

ผมลองเดินไปรอบร้านแล้วผมก็สังเกตเห็น “หนังสือเล่มหนา” ที่ดูสวยงาม หน้าปกประดับด้วยดอกกุหลาบชมพูที่ดูหรูหราอยู่บนชั้นที่มีสิ่งของวางอยู่มากมาย ผมไม่สามารถละสายตาออกจากหนังสือเล่มนี้ได้เลย หนังสือเล่มนี้บรรจุตัวอักษรไว้เรียงกันเป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงาม ตั้งแต่ที่ผมเดินเข้ามาในร้านและเข้ามาที่เมืองนี้ ผู้คนที่อยู่ในเมืองมักจะมีถุงผ้าประจำกายติดตัว บนถุงผ้าประดับด้วยสัญลักษณ์แตกต่างกัน ในถุงผ้านั้นบรรจุหนังสือเล่มบางบ้าง เล่มหนาบ้าง ทุกคนเมื่อว่างจากการทำงานก็จะหยิบหนังสือมาอ่าน

บรรยากาศของเมืองที่เป็นมิตร ทางเท้าที่ทอดยาวราบเรียบ เดินได้สะดวก เงียบสงบ และเย็นสบาย แตกต่างจากเมืองที่ผมจากมา เมืองที่ผมรู้จักคือผู้คนใช้เวลากับงานรื่นเริงที่มีอยู่เป็นประจำกลางใจเมือง น้อยคนนักที่จะมีเวลาหยิบหนังสือมาอ่าน หรือบางคนก็ต้องทำงานหนัก หาเช้ากินค่ำ โอกาสในการเข้าถึงหนังสือ แทบจะไม่มีเลย

ท่ามกลางความเงียบของร้านหนังสือ หญิงสาวคนเดิมก็พูดขึ้นมาว่า “คุณตัดสินใจได้แล้วสินะ” ผมตกใจมากที่ได้ยินเสียงพูด จึงหันไปก็พบกับ “เนโคร” ผมจึงถามเธอว่าหนังสือเล่มนี้ชื่อว่าอะไร เธอตอบมาด้วยเสียงแผ่วเบา “noblesse rose” ผมหยิบหนังสือขึ้นแล้วบอกเธอว่า ผมต้องการหนังสือเล่มนี้ต้องจ่ายเงินเท่าไหร่

เธอกลับส่ายหน้าแล้วพูดว่า “noblesse rose” ได้เลือกเจ้านายของมันแล้ว ฉันขอแค่นายรักษาหนังสือให้ดีและไม่เอาไปให้คนอื่นก็พอ ฉันขอเตือนนายอย่างหนึ่งคือ หนังสือนั้นมีพลังมหาศาลซ่อนเอาไว้ ดังนั้นคิดให้ดีก่อนใช้ ขอให้นายโชคดีกับการเดินทางครั้งนี้ ผมเดินออกมาอย่างสงสัยว่าทั้งหมดที่ได้สัมผัสเป็นเรื่องจริงหรือแค่ภาพลวง แต่ก็ต้องบอกกับตัวเองว่าทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องจริงเพราะข้างกายผมมีถุงผ้าและหนังสือเล่มนั้นบรรจุอยู่ในถุงผ้า

ผมเดินออกจากร้านมาที่นั่งที่เก้าอี้ในสวนสาธารณะ ใต้ร่มไม้ อากาศสดชื่น เย็นสบาย ช่วยคลายความเหนื่อยล้า ผมเปิดหนังสือออกอีกครั้ง และเริ่มดื่มด่ำไปกับทุกตัวอักษร หนังสือเล่มหนาพาผมเดินทางไปทั่วโลก ในดินแดนมหัศจรรย์ ใต้มหาสมุทร ท่องไปในอวกาศ ย้อนไปในอดีต เหมือนผมได้พูดคุยกับคนที่มีความคิดเห็นแตกต่างหลากหลาย ทุกหน้าทุกตัวอักษรที่ได้สัมผัส เปิดโลกกว้างให้กับผม ช่างไม่เหมือนกับเมืองที่ผมจากมาเลยแม้แต่นิดเดียว หนังสือเล่มหนาเล่มนี้แทบจะรวบรวมองค์ความรู้ทุกอย่างที่มีในโลก

จนกระทั่งผมเริ่มรู้สึกหิว จึงมุ่งหน้าแวะเข้าร้านอาหารแล้วก็สั่งซุปเห็ดมาพร้อมกับเค้กเลมอนของโปรดมารับประทาน ระหว่างที่กำลังเติมพลังให้ร่างกาย ก็มีผู้ชายคนหนึ่งทักทายผม แล้วถามว่านั่นใช่ “noblesse rose” ไหม ผมตอบว่าใช่ นี่นายได้มาจากไหน ผมบอกว่าได้มาจากร้านวิลออฟควีน ไม่น่าเชื่อเลยว่าร้านนั้นมีอยู่จริง ถ้าอย่างนั้นตำนานของผู้ถูกเลือกแห่งโชคชะตาที่ถูกกล่าวขานมายาวนานของเมืองนี้คือเรื่องจริง! เขาว่ากันว่าการได้รับสิทธิ์เป็นผู้ถูกเลือกแห่งโชคชะตาเกิดขึ้นอย่างน้อยปีละครั้ง โดยให้โอกาสกับคนแปลกหน้าที่เดินทางมาเยือนที่มีเมืองนี้

นี่มันสุดยอดไปเลย “ข้าชื่อชุน” เขาบอกด้วยความตื่นเต้น แล้วนายชื่ออะไร “ผมชื่อโช” ยินดีที่ได้รู้จักโช ข้าขอโทษนายด้วยที่เข้ามาขัดจังหวะการกินของนาย คือข้าตื่นเต้นมากไปหน่อยที่ได้เห็น noblesse rose ของจริง ชุนนายทำงานอะไรถึงได้รู้จัก noblesse rose ผมถามด้วยความสงสัย เขาตอบว่า ข้าเป็นนักโบราณคดีแล้วก็นักผจญภัย

นายช่วยเล่าให้ข้าฟังได้ไหมว่าทำยังไงถึงได้ noblesse rose มาครอบครอง เขาถามคำถามอีกครั้ง ผมจึงเล่าเรื่องที่ผมเจอกับ “เนโคร” ให้ฟัง แล้วชุนก็พูดกับผมว่า ข้าไม่อยากจะเชื่อเลยสิ่งที่กล่าวขานกันมานานจะจริง อีกทั้งข้าได้พบกับ ผู้ถูกเลือกแห่งโชคชะตา ต่อจากนี้ข้าขอร่วมเดินทางกับนายได้ไหม ข้าอยากจะค้นหาความจริงเกี่ยวกับโลกนี้ ชุนบอกความตั้งใจที่มี ผมตอบกลับไปว่า ได้เลยชุน ตอนนี้เราเป็นคู่หูกันแล้ว ต่อไปเราไปไหนต่อดี ข้าอยากไป “เมืองแห่งนภา” ที่อยู่ในตำนานทั้งห้า ผมได้ยินเสียงตัวเองตอบกลับไปว่า “นี่คือเป้าหมายต่อไปของผมเหมือนกัน”

ผมเปิดหนังสือเล่มหนาอีกครั้งเพื่อค้นหา “เมืองแห่งนภา” วันนั้นถ้าผมไม่ตัดสินใจออกเดินทางจากบ้านเกิดเมืองนอน ผมคงไม่รู้ว่ามีเรื่องราวและผู้คนอีกมากมายที่น่าเรียนรู้ ผมกลับดีใจที่ผมกล้าที่จะก้าวออกมาสำรวจโลก แทนที่จะทำได้เพียงเป็นผู้เฝ้าดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงอย่างเดียว ผมคงไม่อาจเรียกตัวเองได้ว่าเป็นผู้ถูกเลือกแห่งโชคชะตา แต่ผมกลับคิดว่าคนเราควรเป็นผู้กำหนดโชคชะตาของตัวเอง

Reference & Bibliography

  • ขอขอบคุณภาพประกอบ Pexels: Free Stock Photos www.pexels.com
  • ขอขอบคุณภาพประกอบ Unsplash: Beautiful Free Images & Pictures www.unsplash.com

Additional Information

ผลงานชิ้นนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา PLM108 Critical Thinking สนุกคิด ชีวิตเปลี่ยน, BR302 Broadcast Insights, CA004 Digital Photography ภาคการศึกษาที่ 2/2563

Writer

If you believe in yourself anything is possible

Writer

ทำตัวให้เหมือนน้ำครึ่งแก้วตลอดเวลา เพื่อที่จะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ