เรื่องราวของคนที่ไม่ชอบดูซีรีส์ แต่กลับต้องมาทำงานในสายนี้ พิม-ธศิรภร สุดชา กับความกล้าที่เลือกจะออกจากกรอบความเป็นตัวเอง บนทางเดินในสายงาน Content Creator ที่แต่ละก้าวไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
จากคนที่ไม่ชอบซีรีส์ ไม่เคยคิดจะเปิดดู วันหนึ่งต้องมาทำงานในสายงานที่ต้องดูซีรีส์แทบจะทุกเรื่องในแอปพลิเคชั่น WeTV Thailand ในตำแหน่ง Content Creator ที่ต้องหยิบเอาประเด็นในเรื่องมาสร้างสรรค์เป็นงานเขียน เพื่อโปรโมทและสร้างความน่าสนใจให้กับซีรีส์เรื่องนั้นๆ
“ความกดดันเริ่มต้นขึ้น มันยากเหมือนกันนะที่ต้องเปิดใจให้กับสิ่งที่พิมไม่เคยทำ และไม่คิดที่จะทำมาก่อน” นั่นคือสิ่งที่ พิม-ธศิรภร สุดชา นักศึกษาสาขาบรอดแคสต์ติ้งและวารสารศาสตร์ดิจิทัล คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ คิดเมื่อก้าวเข้ามาเป็นนักศึกษาฝึกงาน กับโจทย์ใหญ่เมื่อต้องทำงานให้กับแพลตฟอร์มให้บริการวีดีโอสตรีมมิ่ง (Video Streaming) หน้าใหม่ คือ ทำอย่างไรให้คนไทยรู้จักทั้งแบรนด์ WeTV และซีรีส์ที่กำลังฉาย
จุดเริ่มต้นของการเป็นเด็กฝึกงานสายคอนเทนต์
สวัสดีค่ะ พิม-ธศิรภร สุดชา ตอนนี้กำลังศึกษาสาขาบรอดแคสต์ติ้งและวารสารศาสตร์ดิจิทัล คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เราขอแทนตัวเองว่าพิมแล้วกัน เริ่มเรื่องเลย คือ มหาวิทยาลัยเปิดโอกาสให้นักศึกษาไปฝึกงานในช่วงซัมเมอร์ก่อนขึ้นปี 4 พิมคิดอยู่นานว่าจะฝึกที่ไหนดี จริง ๆ แล้วพิมไม่อยากฝึกงานหรอก แต่ก็มีความคิดหนึ่งที่คิดว่า มันต้องได้อะไรกลับมาบ้าง
ใจพิมอยากทำเกี่ยวกับพวกเพจท่องเที่ยว อาหาร ไลฟ์สไตล์ ส่วนองค์กรที่คิดว่าอยากทำเป็นก็จะเป็นแนว Home Office ที่พนักงานไม่เยอะ ในมุมมองของพิม มองภาพว่าต้องอบอุ่นเหมือนเป็นครอบครัว เป็นบ้านที่ต้องมีความสุข ไม่เครียด คิดว่าน่าจะทำให้พิมสนุกกับการทำงานได้
“พิมสมัครไปหลายที่เหมือนกัน หนึ่งในนั้นก็คือ บริษัท Tencent บริษัทยักษ์ใหญ่ระดับ Top 5 ได้เรียกให้เข้าไปสัมภาษณ์ มันเหมือนฝัน เพราะภาพที่พิมนึกถึงที่ฝึกงานไม่เคยมีภาพบริษัทใหญ่ ๆ ในหัวเลย ทั้งดีใจ กลัว และตื่นเต้นผสมกันไปหมด”
แรกเริ่มพิมสมัครทำคอนเทนต์เกี่ยวกับเพลงในเครือของ Joox Music Application หนึ่งในบริการของ Tencent ซึ่งตรงกับสิ่งที่ตัวเองสนใจ แต่ฝ่ายบุคคลแจ้งว่านักศึกษาฝึกงานทีมนั้นเต็มแล้ว แต่บริษัทกำลังจะเปิดตัว WeTV แอปพลิเคชันใหม่ให้บริการซีรีส์ออนไลน์ ซึ่งทีมกำลังต้องการคนทำคอนเทนต์อยู่พอดี
“จริง ๆ พอได้ยินคำว่าซีรีส์ พิมคิดในใจว่าจะทำได้เหรอ ? เพราะไม่เคยดู ไม่ชอบ เราคิดว่าตัวเองสมาธิสั้น ทำอะไรที่ต้องจดจ่อหน้าคอมนาน ๆ ไม่ได้ ตอนนั้นพิมคิดหนักมากว่าจะเอายังไงดี เริ่มไม่มั่นใจ เพราะไม่ได้งานตามที่คาดหวังไว้ แต่ก็ตอบตกลงที่จะสัมภาษณ์ไปเพราะคิดว่าอย่างน้อยตัวงานก็ยังเป็นการทำคอนเทนต์ที่เราถนัดและก็น่าสนใจดี หลังจากนั้นพิมก็เริ่มศึกษา ทำความเข้าใจกับซีรีส์อย่างจริงจัง พยายามดูบ่อย ๆ เก็บข้อมูลให้ได้มากที่สุด จริง ๆ แล้วการได้ลองทำอะไรที่ไม่เคยทำก็เป็นเรื่องที่สนุกและท้าทายดีเหมือนกัน” พิมบอกตัวเองด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นและสายตาที่มุ่งมั่น
ต้นแบบที่ดีทำให้เรามีแรงขับเคลื่อนที่อยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง
เมื่อเข้าไปในห้องสัมภาษณ์ พี่ที่สัมภาษณ์พิม ชื่อ ‘พี่เจี๊ยบ’ แรกเจอ คือ พี่สวยมาก ดูเป็น Working Woman แล้วก็มั่นใจ พิมชอบสไตล์ของพี่มาก ๆ พี่เจี๊ยบเริ่มถามคำถามเกี่ยวกับชีวิตทั่วไปและการทำงาน จำได้ว่าตอนนั้นพิมไม่มีสติเลย ตอบอะไรไปก็ไม่รู้ แต่พี่เจี๊ยบใจดี น่ารักมาก เขาสามารถพูดกับเราจนความกังวลที่มีแทบไม่เหลือ
ประทับใจในความเป็นกันเองของพี่เจี๊ยบและความเป็นผู้ใหญ่ของพี่ เชื่อไหมว่าสิ่งนี้เปลี่ยนเราไปเลย ทำให้รู้สึกอยากร่วมงานกับทีม WeTV และพิมก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า พี่จะรับเด็กคนนี้ คนที่ไม่มีความชอบในการดูซีรีส์มาก่อน แต่เราอยากลอง อยากเรียนรู้ว่ามันจะหนักแค่ไหน มันคงไม่มีอะไรยากเกินความสามารถหรอกถ้าคิดที่จะทำ
วันรุ่งขึ้นพี่ฝ่ายบุคคลโทรมาบอกว่ารับเข้าทำงาน พิมดีใจสุด ๆ ทำตัวไม่ถูก อีกใจก็กลัวว่าจะทำงานออกมาได้ไม่ดี มีทั้งความกดดันความสุขตีสับสนกันไปหมด พี่บอกว่าเริ่มงานได้เลยวันที่ 13 พฤษภาคม 2562 รู้สึกว่าเร็ว เพราะกำหนดการของทางมหาวิทยาลัยให้เริ่มวันที่ 21 พฤษภาคม 2562 แต่คิดไปแล้วก็เห็นว่าการเริ่มงานเร็วก็ดี ได้เรียนรู้ก่อนใคร พิมจึงฟิตร่างกาย เตรียมตัวให้พร้อมก่อนทำงาน หาข้อมูลแอปพลิเคชัน WeTV เริ่มดูซีรีส์เรื่องแรกอย่างจริงจัง เพราะคิดว่านี่คืองานที่เราจะต้องผลิตชิ้นงานออกมา ต้องเปิดใจทำความคุ้นชินให้ได้มากที่สุด
ทำงานด้วยความตั้งใจเต็มร้อย
งานหลักที่พิมทำก็จะเป็นเขียนเรื่องย่อซีรีส์ หาจุดเด่นของซีรีส์แต่ละตอน ยกตัวอย่างซีรีส์ที่เคยทำก็คือ เรื่อง Put Your Head On My Sholder (อุ่นไอในใจเธอ) เป็นเรื่องแรกที่เปลี่ยนเราไปเลย เราชอบเรื่องนี้มาก
พิมยังได้รับหน้าที่เป็นแอดมินเพจ WeTV Thailand ต้องตอบคำถามลูกค้าที่ทักอินบอกซ์เข้ามา งานแอดมินทำให้เรารู้ว่าการทำงานจริงต้องเจอกับปัญหาที่จุกจิกมาก คล้ายว่าเราอธิบายไปแล้วลูกค้าไม่เข้าใจ เราจะมีวิธีแก้ปัญหานี้ยังไง คือว่าง่าย ๆ ได้เรียนรู้จริง ลงมือแก้ไขเองเลย แต่ตอนแรกยอมรับว่าการต้องดูซีรีส์เป็นสิ่งที่เราฝืนใจที่จะทำมันมากที่สุด แต่พอได้ดูไปสักพัก ก็มีจุดเปลี่ยนที่ทำให้เรารู้สึกว่าการดูซีรีส์มันผ่อนคลาย สนุก อีกทั้งยังให้แง่คิดกับเรา เป็นการเปิดใจในการดูซีรีส์เรื่องแรกของเราเลยก็ว่าได้ เราถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี
การเป็นเด็กฝึกงานที่ WeTV ทำให้เราได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง รู้สึกว่าเราโตขึ้น บางอย่างต้องควบคุมตัวเองในเรื่องของความรู้สึก การปรับตัวให้เข้ากับคนหมู่มาก ยอมรับเลยว่าแรก ๆ มีท้อเหมือนกัน รู้สึกตัวเองปรับตัวยาก ทำอะไรก็ไม่ดี ไม่เก่งเหมือนคนอื่น ๆ แต่พิมก็โชคดีมากที่ได้พี่เลี้ยงดี พี่มะนาว-กัญญชล สุขภุมรินทร์ พี่ที่น่ารัก คอยดูแลพิมตลอดระยะเวลาที่ฝึกงาน พี่มะนาวเป็นคนใจเย็น ตลก พี่มักสร้างเสียงหัวเราะให้เราเสมอ ทำให้เวลาทำงานมีความสุขมาก
‘ความผิดพลาด’ เป็นครูที่จะทำให้เราโตขึ้น
แน่นอนว่าการทำงาน ต้องมีทั้งสำเร็จและผิดพลาด เราโดนพี่ดุหลายครั้งว่าทำงานไม่เรียบร้อย ด้วยความที่เป็นคนทำงานเร็ว ใจร้อน จึงมีบางครั้งที่เรามองข้ามในจุดที่เล็ก ๆ น้อย ๆ ไป แต่ด้วยความที่พี่ ๆ ทุกคนในทีมใจดี ใจเย็น เหมือนพิมเข้ามาในทีมเป็น Family เดียวกับพวกเขาแล้ว เขาดูแลและสอนเราให้รู้วิธีแก้ไขในงานที่ทำผิดพลาด ด้วยเทคนิคของคนที่ทำงานจริง เราประทับใจมาก ถือเป็นความโชคดีที่เราได้อยู่ในทีมที่มีคุณภาพและมีความเป็นมืออาชีพ พี่ทุกคนน่ารัก งานที่ทำออกมาเลยเป็นงานที่ออกมาดีและเราก็ตั้งใจทุกครั้งที่ทำ พิมเชื่อว่าสิ่งนี้จะเป็นการพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นกว่าที่เคยเป็นอยู่อย่างแน่นอน
การเรียนรู้เป็นสิ่งสำคัญกับทักษะด้านภาษาที่เป็นผลพลอยได้จากการดูซีรีส์
การทำงานที่ WeTV สำคัญเลย คือ ต้องได้ภาษาจีน อังกฤษ ซึ่งพื้นฐาน 2 ภาษานี้ เราอยู่ในระดับกลาง ๆ แต่ภาษาไทยพิมค่อนข้างดีทำให้เวลาเรียบเรียงคำทำได้อย่างไม่ติดขัด ด้วยความที่อยู่กับซีรีส์ทุกวัน ดูเกือบทุกเรื่อง จนเหมือนว่าภาษามันจะค่อย ๆ ซึมซับไปเอง บางคำพิมสามารถแปลได้โดยที่ไม่ต้องดูซับ ก็ถือเป็นเรื่องที่เจ๋งดี มันจุดประกายให้เราเกิดความรู้สึกว่าภาษาที่ 3 เป็นสิ่งที่น่าสนใจ อยากลองเรียนรู้เพิ่มเติม พิมจึงมักชอบพูดคุยกับเพื่อนและพี่ในทีมที่เป็นคนจีน ได้แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมภาษา เป็นการแลกเปลี่ยนที่ทั้งเราและเขาได้อะไรกลับไปจริง ๆ
คำสอนของแม่ที่ว่า ไม่มีอะไรที่ลูกทำไม่ได้ ถ้า ‘ใจสู้’
มนุษย์เรารู้จักการปรับตัวและมีใจพร้อมที่จะสู้กับทุกเรื่องที่เจอ แม่เราสอนเสมอว่าให้ทำตัวเป็นเหมือนน้ำ เราต้องรู้จักที่จะลื่นไหล ยืดหยุ่น เพราะน้ำเป็นสิ่งที่ไม่ว่ามันจะไปอยู่ในภาชนะแบบไหน ก็สามารถปรับตัวกับภาชนะนั้น ๆ ได้ ก็เปรียบเหมือนตัวเราที่ต้องอยู่ในสังคมที่มีความหลายหลาย อายุเราแค่นี้ยังต้องเจออะไรอีกมาก ใจเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าใจไม่สู้ ทุกอย่างก็จบ สำคัญเลยคือเราต้องดูแลใจให้ดีที่สุด พยายามหาอะไรที่จะช่วยส่งเสริมพลังใจในด้านบวก คิดดี พูดดี ทำดี สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่แม่ของพิมบอกและปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก ๆ เพื่อที่หวังว่าจะเห็นลูกสาวโตไปเป็นคนที่มีหัวใจที่เข็มแข็ง พร้อมรับมือกับทุกปัญหาและอุปสรรคที่ต้องเจอในอนาคต
พิมอยากฝากให้เพื่อน ๆ น้อง ๆ หรือทุกคนที่สนใจ กำลังจะฝึกงานให้เต็มที่กับงานที่ได้รับมอบหมาย เพราะว่าเวลาสองเดือนเร็วมาก อยากให้เก็บเกี่ยวได้มากที่สุด พี่ให้ลองทำอะไรก็ทำ ไม่ต้องเกี่ยงงาน สำหรับพิมทำได้ทุกอย่าง เรามองว่าทุกวินาทีคือการเรียนรู้ โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีมาบ่อย รู้สึกว่าพิมโชคดีมากที่ได้มาฝึกงานในบริษัท Tencent และอยากขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจ โดยเฉพาะ คุณพ่อ คุณแม่ คุณป้า ที่คอยให้คำปรึกษาและสนับสนุนพิมในทุก ๆ เรื่อง ในวันที่ท้อหนัก ๆ ก็มักจะได้กำลังใจจากครอบครัวที่เป็นแรงใจชั้นดี ทำให้พิมก้าวข้ามผ่านปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ไปได้
ขอบคุณพี่ ๆ ทีม WeTV ทุกคน (พี่เจี๊ยบ พี่แป้ม พี่มะนาว พี่โคโค่ พี่ปู พี่นัท) พี่เป็นเหมือนโค้ช คอยสอนงาน สอนการใช้ชีวิต การเข้าสังคมกับผู้ใหญ่ ต้องทำตัวและปรับตัวอย่างไร ทำให้เด็กต่างจังหวัดตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งได้โตขึ้นอีกหนึ่ง Step ขอบคุณมิตรภาพที่ดีจากเพื่อนร่วมงาน พิมได้คอนเนคชั่นที่ไม่เคยคิดมาก่อนว่า จะมีเพื่อนที่ดีกลับมา ได้แลกเปลี่ยนและแชร์ประสบการณ์ในทุกเรื่อง ทั้งเรียน เรื่องงาน การใช้ชีวิต พิมกล้าพูดเลยว่าตั้งแต่พิมได้ไปฝึกงานรู้สึกว่าชีวิตตัวเราเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ภูมิคุ้มกันมากขึ้นและพิมพร้อมแล้วที่จะออกไปเผชิญโลกกว้างที่ก้าวสู่ความเป็นผู้ใหญ่อย่างเต็มตัว
Additional Information
ผลงานชิ้นนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา CJR402 Journalism Internship Section 4222 ภาคการศึกษาที่ 1/2 2562 คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ อาจารย์ที่ปรึกษา ผศ.ขจรจิต บุนนาค