เรื่องเล่าลึกลับเหนือธรรมชาติ เขย่าขวัญทำให้หัวใจเต้นแรงคงหนีไม่พ้นเรื่องผีที่เรามักจะหยิบยกนำมาบอกเล่ากัน เปลี่ยนค่ำคืนที่น่าเบื่อให้น่าตื่นเต้น เราชวนดู 6 หนังสยองขวัญสุดคลาสสิคที่เราต่างนำกลับมาดูได้ซ้ำแล้วซ้ำอีก และโดยเฉพาะในช่วงค่ำคืนของวันฮาโลวีน (Halloween) เทศกาลของชาวตะวันตก ซึ่งเป็นวันที่เชื่อกันว่าโลกของวิญญาณและโลกของมนุษย์เปิดประตูเชื่อมต่อถึงกันและกันได้มากกว่าทุกวัน

The Exorcist (1973)

หมอผี เอ็กซอร์ซิสต์ เป็นภาพยนตร์สยองขวัญที่ถูกขนานนามว่าเป็นหนังผีที่น่ากลัวที่สุดตลอดกาล เพราะในเรื่องมีทั้งฉากสยองขวัญที่ชวนแหวะ บรรยากาศที่ชวนขนลุก ความรุนแรงในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนในหนังสยองขวัญยุคก่อนหน้า อย่างฉากสะพานโค้งในตำนาน ที่แรแกนตัวละครหลักในเรื่องที่โดนปีศาจเข้าสิง ได้แสดงความสยองด้วยการคลานสี่ขาลงมาจากบันไดด้วยท่าสะพานโค้ง ที่ทำให้ผู้ชมเกิดความสยดสยองทุกครั้งที่ได้รับชมและยังเป็นที่กล่าวขวัญมาจนถึงทุกวันนี้ นอกจากนี้ยังมีเรื่องเล่าลือถึงความอาถรรพ์ของกองถ่าย ที่ทำให้คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับหนังเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นนักแสดง ทีมงานหรือผู้ชมต้องพบเจอกับเรื่องราวสยองขวัญกันไปตาม ๆ กัน

The Exorcist เข้าฉายในปี 1973 โดยดัดแปลงมาจากนวนิยายสยองขวัญชื่อเดียวกัน ประพันธ์โดย William Peter Blatty โดยที่เขาได้เข้ามาเป็นทั้งโปรดิวเซอร์และคนเขียนบทภาพยนตร์ให้กับหนังเรื่องนี้ด้วย กำกับโดย William Friedkin นำแสดงโดย Ellen Burstyn และ Linda Blair หนังเล่าเรื่องราวของนักบวชและนักไล่ผีในนิกายคาทอลิกที่ถูกคุณแม่ท่านหนึ่งเชิญให้มาปราบปีศาจร้ายที่สิงอยู่ในลูกสาวเธอ The Exorcist กวาดรายได้ไปกว่า 441 ล้านดอลลาห์สหรัฐจากทั่วโลก เพราะเหตุนี้ The Exorcist จึงขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในภาพยนตร์สยองขวัญตลอดกาล

The Sixth Sense (1999)

The Sixth Sense เป็นภาพยนตร์สยองขวัญที่ออกฉายในปี 1999 โดยเป็นผลงานการกำกับของ M. Night Shyamalan นำแสดงโดย Bruce Willis และ Haley Joel Osment หนึ่งในหนังสยองขวัญที่เบิกเนตรให้เรามองเห็นมิติลี้ลับที่ซ่อนอยู่

The Sixth Sense เล่าเรื่องราวของ มัลคอล์ม โครว์ จิตแพทย์เด็ก ที่ได้พบกับ โคล เซียร์ เด็กผู้ชายคนหนึ่งที่มีสัมผัสพิเศษ มองเห็นคนที่จากไปแล้วได้ และยังเป็นหนังที่ถูกพูดถึงในเรื่องของหนังที่มีตอนจบที่หักมุม และมีจุดไฮไลท์ของเรื่องอยู่ตรงคำพูดของ Haley Joel Osment นักแสดงเด็กในเรื่องที่พูดว่า “I see dead people” นอกจากนี้ภาพยนต์เรื่องนี้ยังสามารถทะยานเข้าสู่อันดับ 1 ของ Box Office ตั้งแต่สัปดาห์แรกที่เข้าฉาย และยังสร้างชื่อให้ M. Night Shyamalan กลายมาเป็นผู้กำกับที่เป็นที่รู้จักอีกด้วย

The Shining (1980)

ถ้าหากจะให้พูดถึงยุค 80’s นอกจากการแต่งหน้าด้วยสีสันสีฉูดฉาด เสื้อคลุมเสริมไหล่ ยุคแห่งศิลปินเพลงป๊อปอย่าง มาดอนน่า หรือ ไมเคิล แจ็คสัน ยุคแห่งเพลงแนว synthpop แล้ว ยังถือว่ายุค 80s นี่แหละ คือยุคแห่งหนังสยองขวัญ เพราะไม่ว่าจะทั้งไทย หรือ เทศ หนังทุนสร้าง หรือ หนังเกรดบี เหล่าบรรดาค่ายหนังต่างพากันผลิตหนังสยองขวัญเข้าสู่ตลาดเพื่อตอบสนองต่อความต้องการและความนิยมของผู้ชมในสมัยนั้น

หากจะพูดถึงราชาแห่งเรื่องสยองขวัญ จะไม่นึกถึงเขาคนนี้ไม่ได้เลย Stephen King เจ้าพ่อแห่งเรื่องสยองขวัญและนักเขียนชื่อดังที่ทรงอิทธิพลคนหนึ่งของอเมริกา โดยผลงานของเขานั้นได้นำมาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ชื่อดังมากมาย ยกตัวอย่างเช่น The Shawshank Redemption, The Green Mile และ The Mist

หนึ่งในคอลเลคชั่นนิยายสยองขวัญของ Stephen King ที่ได้นำมาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์สยองขวัญที่ต่อมาได้ขึ้นแท่นกลายเป็นภาพยนตร์สยองขวัญที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาลอย่าง The Shining ที่เข้าฉายในปี 1980 อำนวยการสร้าง กำกับและเขียนบทโดย Stanley Kubrick นำแสดงโดย Jack Nicholson, Shelley Duvall, Danny Lloyd หนังเล่าเรื่องราวของครอบครัวหนึ่งที่ได้เข้าพักในโรงแรมแห่งหนึ่งในช่วงฤดูหนาว และต้องพบเจอกับเรื่องราวสยองขวัญ The Shining ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากหลังจากเข้าฉายทั้งทางด้านรายได้และเสียงวิจารณ์ และยังถือว่าเป็นภาพยนตร์ที่ดีที่สุดจากภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากนวนิยายของ Stephen King

นางนาก (1999)

ตำนานเรื่องราวโศกนาฏกรรมความรัก ความผูกพัน ระหว่างนางนาก และพ่อมาก แห่งทุ่งพระโขนง หรือที่ทุกคนรู้จักกันในชื่อ ตำนานแม่นากพระโขนง ที่มีการเล่าและถ่ายทอดกันมารุ่นต่อรุ่น โดยตำนานแม่นากพระโขนงนั้นมีการนำมาสร้างเป็นละครและภาพยนตร์หลายต่อหลายครั้ง

ถ้าในเวอร์ชั่นภาพยนตร์ที่มีการพูดถึงว่าดีที่สุดและน่ากลัวที่สุดนั้นต้องยกให้ ‘นางนาก’ ปีพ.ศ. 2542 ที่กำกับโดยนนทรี มินิบุตร บทภาพยนตร์ วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง และนำแสดง ได้แก่ ทราย อินทิรา เจริญปุระ และวินัย ไกรบุตร เรื่องราวจะเกิดขึ้นในยุคสมัยรัชกาลที่ 4 มีการกล่าวถึง สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ซึ่งมีตัวตนอยู่จริงในสมัยรัชกาลที่ 1 ถึง 5 และยังมีฉากที่ถูกพูดถึงและเป็นที่จดจำอย่างฉากที่ นางนาก (ทราย เจริญปุระ) ห้อยหัวลงมาจากหลังคาโบสถ์ โดยนางนาก 2542 นั้น สามารถทำเงินได้กว่า 149.6 ล้านบาท ถือว่าเป็นภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จทั้งเรื่องของรายได้ และรางวัล

เปนชู้กับผี (2006)

ถ้าหากจะกล่าวว่า Stephen King คือ ราชาแห่งเรื่องสยองขวัญของอเมริกาแล้ว ราชาแห่งเรื่องสยองขวัญของฝั่งไทยก็คงจะไม่พ้นเขาคนนี้ ครูเหม เวชกร ศิลปินผู้เป็นปูชนียบุคคลแห่งวงการศิลปะเมืองไทย เพราะนอกจากเรื่องสั้นสยองขวัญที่ประพันธ์เองแล้ว ครูเหมยังได้วาดภาพประกอบเรื่องสั้นเองด้วย

เรื่องสยองขวัญของครูเหมนั้นส่วนมากจะพูดถึงเรื่องราวของความรัก ความผูกพันธ์ ระหว่างคนที่ยังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้และคนที่มีชีวิตอยู่ในโลกหลังความตาย โดยที่เรื่องราวนั้นมีทั้งความซึ้ง ความตลกขบขัน รวมทั้งความหลอน นอกจากนี้พื้นหลังของเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเรื่องนั้นจะเกิดขึ้นในยุคสมัยของสงครามโลกครั้งที่ 2 และยุคสงครามเย็นเป็นส่วนมาก ส่งผลให้บรรยากาศในเรื่องนั้นจะดูเย็นยะเยือกและไม่น่าไว้วางใจ

หนึ่งในเรื่องสั้นสยองขวัญที่ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ไทย ก็คือ เปนชู้กับผี ที่ออกฉายในปี 2549 ผลงานการกำกับของ วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง เขียนบทโดย ก้องเกียรติ โขมสิริ นำแสดงโดย นุ่น ศิริพันธ์ วัฒนจินดา, สุพรทิพย์ ช่วงรังษี, ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ และวิสาข์ คงคา หนังเล่าเรื่องราวของหญิงสาวท้องแก่คนหนึ่งชื่อ นวลจัน ที่ได้เข้ามาตามหาสามีที่หายตัวไปที่กรุงเทพ และได้ขอเข้าพักอาศัยอยู่ที่คฤหาสน์หลังหนึ่ง โดยเจ้าของคฤหาสน์หลังนั้นเป็นแม่ม่ายสาวที่ชอบทำตัวลึกลับ มีแม่บ้านที่ชอบใส่ขุดสีดำปิดคอไว้ตลอดเวลา ชื่อสมจิตและช้อย ที่เป็นเพื่อนผู้คอยช่วยเหลือนวลจัน ระหว่างที่พักอยู่ที่คฤหาสน์นี้นวลจันต้องพบกับเรื่องลึกลับและสยองขวัญแบบที่เธอคาดไม่ถึง จุดเด่นของเป็นชู้กับผีที่นอกจากบรรยากาศที่ชวนหลอนและดูไม่น่าไว้วางใจอยู่ตลอดเวลาแล้ว ยังมีการสอดแทรกวิถีชีวิตและความเชื่อของผู้คนในสมัยนั้นลงไปอีกด้วย

ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ (2004)

ภาพยนตร์สยองขวัญสัญชาติไทยของอดีตค่ายหนังฟีลกู้ดอย่าง จีเอ็มเอ็ม ไท หับ เกิดจากการรวมกันของ 3 บริษัท คือ จีเอ็มเอ็ม พิคเจอร์ หับโห้หิ้น ฟิล์ม และไท เอ็นเตอร์เทนเมนต์ หรือที่ทุกคนรู้จักกันในชื่อ GTH ชัตเตอร์ถูกพูดถึงในแง่ของความน่ากลัว จนสามารถกวาดรายได้ไปกว่าร้อยล้านบาท และยังถือเป็นภาพยนตร์สยองขวัญเรื่องแรกของค่าย GTH ที่สามารถทำรายได้ทะลุร้อยล้าน

ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ ออกฉายในปี 2547 ร่วมกำกับและเขียนบทโดย บรรจง ปิสัญธนะกูล และภาคภูมิ วงศ์ภูมิ นำแสดงโดย อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม, จ๋า ณัฐฐาวีรนุช ทองมี, อิม อชิตะ สิกขมานา (ชื่อในชณะนั้น) หนังเล่าเรื่องราวของ ธรรม์ ช่างภาพหนุ่ม กับ เจน แฟนสาวของเขา ที่บังเอิญไปขับรถชนหญิงสาวคนหนึ่งเข้าอย่างจัง แล้วตัดสินใจหนีไป หลังจากนั้นทั้งคู่ได้พบกับเหตุการณ์เมื่อภาพที่ธรรม์ถ่ายนั้นมักจะติดแสงประหลาด หรือ ภาพเงาคล้ายใบหน้าของหญิงสาวติดเข้ามาในภาพด้วย และทั้งสองยังต้องพบเจอกับเรื่องราวสยองขวัญตามมา

นอกจากความสำเร็จในเรื่องของรายได้และความนิยมที่ท่วมท้นหลังจากเข้าฉาย ยังมีฉากที่กลายเป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวางของหนังเรื่องนี้อย่างฉากผีขี่คอ ที่น่ากลัวจนผู้คนต่างพากันยกย่องให้ชัตเตอร์กลายเป็นหนึ่งในภาพยนตร์สยองขวัญสัญชาติไทยที่น่ากลัวที่สุด และจากกระแสความนิยมยังทำให้ชัตเตอร์ถูกขายลิขสิทธิ์ไปยัง 30 ประเทศทั่วโลกอีกด้วย

นี่ก็คือ 6 ภาพยนตร์สยองขวัญสุดคลาสสิคที่คัดมาแล้วว่าหลอน น่ากลัว และสยดสยอง สำหรับใครที่ไม่กล้าดูคนเดียว หรือ อยากมีเพื่อนร่วมหลอน เราแนะนำว่าให้คุณจับมือเพื่อน พี่น้อง แฟน คนรู้ใจ หรือ ครอบครัวมานั่งดูด้วยกันก็ได้ ที่นอกจากจะได้รับความหลอนกันอย่างทั่วถึงแล้ว ยังถือว่าเป็นกิจกรรมที่ช่วยกระชับความสัมพันธ์อีกด้วย

Reference & Bibliography

Additional Information

ผลงานชิ้นนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา AD552 Creative Portfolio, BR551 Social Broadcasting, CA553 Development Communication ภาคการศึกษาที่ 1/2 2563

Writer

ตอนเด็กฝันอยากเป็นบก.นิตยสารแฟชั่นแต่จับพลัดจับผลูมาเรียนโฆษณา เลยอยากลองเป็นนักเขียนดูบ้าง ชอบงานภาพพอ ๆ กับชอบงานเขียน ชอบโกโก้ไข่มุกหวานน้อย ชอบปวดหลัง เป็น VIP ที่มีบทสวดประจำใจเป็น Simon says - NCT 127

Graphic

ชอบในการเรียบเรียงเนื้อหา เล่าเรื่องด้วยวิดีโอ ภาพถ่าย เเละอยากเรียนรู้การทำงานเบื้องหลังต่าง ๆ เพื่อสร้างงานใหม่ในอนาคต

Graphic

สำหรับผมแล้วการถ่ายภาพก็เหมือนกับเราทดลองวิทยาศาสตร์ คือมีการวางตัวแปรที่สำคัญ อย่างเช่น แสง วัตถุที่ต้องการให้อยู่ในภาพ การเลือกเทคนิคการถ่ายภาพ การวางองค์ประกอบภาพ และเราจะได้ผลการทดลองที่เราตั้งสมมุติฐานไว้

Graphic

หลงใหลในการเล่าเรื่องผ่านการถ่ายภาพ เชื่อว่าทุกสิ่งรอบตัวต่างมีเรื่องราว จึงต้องฝึกฝนการเปิดมุมมองให้หลากหลาย เพื่อที่จะสามารถเล่าเรื่องต่าง ๆ ได้อย่างแปลกใหม่