‘ฟุตบอล’ อีกหนึ่งชนิดกีฬาที่มีความนิยมอันดับต้น ๆ ของประเทศไทยที่สร้างความสนุกนาน สร้างมิตรภาพที่ดี รวมไปถึงเป็นการสร้างความบันเทิงต่อผู้รับชม เปรียบเสมือนดั่งละคร หรือภาพยนตร์ที่ให้ความบันเทิง การทำผลงานได้ดีในสนามของนักเตะ มีรูปแบบการเล่นตื่นเต้น เร้าใจ จะทำให้มีผู้ติดตาม และให้ความสนใจเพิ่มมากขึ้น
‘ฟุตบอลทีมชาติไทย’ เป็นกระแสที่คนไทยต่างให้ความสนใจและเอาใจช่วยมาโดยตลอดในทุกการแข่งขัน เนื่องจากเป็นตัวแทนของชาวไทยในการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ เปรียบดั่ง ‘ช้างศึก’ ที่ออกรบด้วยมุ่งมั่นกล้าหาญ ไม่ว่าจะไปแข่งขันที่ไหนก็ตาม แฟนบอลจะติดตามให้กำลังใจอยู่ตลอด จนสามารถหลอมรวมศรัทธาความเชื่อมั่นที่ยิ่งใหญ่ และเป็นหนึ่งเดียวเดียวได้
ถึงแม้ว่ากระแสของทีมชาติไทยในขณะนี้อาจจะไม่แรงเหมือนช่วงหลายปีที่ผ่านมา ด้วยผลงานของทีม รวมถึงปัจจัยในด้านอื่น ๆ จึงเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ศรัทธาของแฟนบอลลดลงไป
เราขอพูดถึงปัจจัยสำคัญที่จะเรียกศรัทธาความเชื่อมั่นของแฟนบอลต่อทีมชาติไทย รวมถึงขอเป็นอีกหนึ่งพลังที่ผลักดันให้ทัพ ‘ช้างศึก’ กลับมาทำผลงานให้ดีขึ้นกว่าเดิม
ผลงานในสนามแข่ง
สิ่งสำคัญที่สุดในการเรียกศรัทธาได้ในโลกของฟุตบอลนั้น คือการทำผลงานในสนามให้ออกมาได้ดีด้วยรูปแบบการเล่นฟุตบอลที่สวยงาม มีความหลากหลายในการเข้าทำ มีสไตล์เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง เปรียบเสมือนกับสโมสร ลิเวอร์พูล มี เจอร์เก้น คล็อปป์ เป็นผู้จัดการทีม หรือสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ มี เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เป็นผู้จัดการทีม ทั้งสองกุนซือชั้นนำระดับโลก แน่นอนว่าพวกเขาเหล่านี้มีความชัดเจนด้วยรูปแบบการเล่นเกมรุกที่ทันสมัย และจบสกอร์ได้อย่างเฉียบขาด ทำให้แฟนบอลชื่นชอบ และหันมาติดตามให้กำลังใจได้
ทีมชาติไทยเช่นกัน ถ้าหากว่าสามารถกลับมาทำผลงานได้ดีอีกครั้ง เหมือนในช่วง 6 ปีที่ผ่านมาภายใต้การคุมทีมของ ‘ซิโก้’ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ที่สามารถปลุกพลังศรัทธาความเชื่อมั่นของเหล่าแฟนบอลที่มีต่อทีมได้อย่างชัดเจน ด้วยการวางแผนในระบบการเล่นที่มีความสวยงาม ดูสนุกเร้าใจ ทำให้ในแต่ละเกมที่ทัพ ‘ช้างศึก’ มีโปรแกรมลงทำการแข่งขัน แฟนบอลชาวไทยจะให้ความสนใจจะเข้าไปชมเกมในสนามเพิ่มมากขึ้น
แต่หากมีผลงานที่ตกลงไปต่อเนื่องในหลายเกม แฟนบอลในสนามจะทยอยหายไป ด้วยผลการแข่งขันที่ออกมาไม่เป็นที่ถูกใจ ซึ่งมาพร้อมกับคำวิพากษ์วิจารณ์ต่าง ๆ ตามมาอย่างมากมายบนโลกโซเชี่ยล ถ้านำไปเปรียบเทียบกับวัฒนธรรมการดูฟุตบอลของต่างประเทศ จะพบว่าถ้าหากทีมที่เราติดตามให้กำลังใจ แพ้ในหลายเกมติดต่อกัน หรือว่าตกลงไปรั้งอยู่ในอันดับท้ายตาราง แฟนบอลต่างประเทศยังคงเข้ามาให้กำลังใจในสนามและชมเกมอย่างหนาแน่น พร้อมสนับสนุนด้วยพลังใจอันเต็มเปี่ยม ในทีมฟุตบอลที่พวกเขารัก
การเปลี่ยนแปลง
สิ่งที่แฟนบอลอยากเห็นมากที่สุดหลังจากเห็นผลงานของทีมตกลงไป แน่นอนว่า ‘การเปลี่ยนแปลง’ คือหนึ่งในปัจจัยที่แฟนบอลเรียกร้องให้เกิดขึ้นให้ได้ ยกตัวอย่างในกรณี 2 อดีตเฮดโค้ช ทัพ ‘ช้างศึก’ อย่าง ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง และมิโลวาน ราเยวัช ที่ทำผลงานได้ไม่ดีนัก เกิดกระแสเรียกร้องจากแฟนบอลให้มีการลาออกจากตำแหน่ง
รวมไปถึงเรียกร้องให้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย แสดงสปิริตลาออกด้วยเช่นกัน เพื่อรับผิดชอบต่อผลงานที่ย่ำแย่ และสิ่งที่แฟนบอลชาวไทยส่วนมากต่างรับไม่ได้ก็คือ ถูกศัตรูเบอร์หนึ่งอย่างทีมชาติเวียดนามแซงขึ้นไปเป็นอันดับหนึ่งของอาเซียน และรั้งอยู่ในอันดับที่ 97 ของโลก ตามการจัดอันดับแรงกิ้งของฟีฟ่า
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย อยู่นิ่งไม่ได้ จึงเกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งหลังจากที่จบศึก คิงส์ คัพ 2019 เมื่อช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยไฮไลท์สำคัญอยู่ที่การประกาศแต่งตั้งหัวหน้าผู้ฝึกสอนคนใหม่อย่าง อากิระ นิชิโนะ อดีตกุนซือทีมชาติญี่ปุ่น เข้ามาคุมทัพ โดยการแต่งตั้งครั้งนี้ถือว่าเป็นที่ถูกใจแฟนบอลชาวไทยเป็นอย่างยิ่ง ด้วยประสบการณ์การคุมทีมในระดับที่ใหญ่ และยังขึ้นชื่อในความเข้มเรื่องของระเบียบวินัยอีกด้วย
‘โค้ชจุ่น’ อนุรักษ์ ศรีเกิด ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนของ อากิระ นิชิโนะ ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านเว็บไซต์ Fox Sports Thailand ถึงการเข้ามาของ อากิระ นิชิโนะ โดยนักเตะภายในทีมส่วนใหญ่เริ่มเข้าใจกับระบบการเล่นมากขึ้น ทำอย่างไรให้ผู้เล่นเก่า และผู้เล่นใหม่มีความลงตัว รู้สึกว่าเหมือนเห็นตัวเองในยุคดรีมทีม ที่กำลังเข้าสู่การเปลี่ยนแปลง ซึ่งถ้าหากสามารถรักษามาตรฐานได้ ให้ความร่วมมือดี อีกทั้งเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจะส่งผลต่อผลงานที่ดีในอนาคตได้ ถ้าหากแฟนบอลชาวไทยยอมอดทนรออีกนิด และร่วมมือร่วมใจที่จะก้าวไปพร้อมกับเรา
“เด็ก ๆ ทุกคนในทีมให้ความร่วมมือกันอย่างดีครับ มีการตื่นตัวในการชิงตำแหน่งการเล่น สิ่งหนึ่งที่สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนคือ ทุกคนเปิดรับมุมมองใหม่ๆ จากโค้ชนิชิโนะ ทุกคนจะต้องเข้าหาบอลเร็ว และต้องเสียบอลยาก เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะต่อยอดในเรื่องของแท็กติก”
“ผมเชื่อว่าแฟนบอลไทยทุกคน กำลังจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของฟุตบอลไทย เรากำลังได้คนจากชาติที่มีวินัย เข้ามาปูพื้นฐาน ซึ่งผมคิดว่า โค้ชนิชิโนะ ค่อนข้างตอบโจทย์กับเรื่องพวกนี้ ก็อยากให้แฟนบอลชาวไทย อดทน และเปิดใจกับโค้ชนิชิโนะครับ เมื่อไหร่ที่เรารวมใจกัน เราจะเป็นทีมที่แข็งแกร่ง” อนุรักษ์ กล่าวทิ้งท้าย
จนกระทั่งในศึก ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบแบ่งกลุ่ม 2 เกมแรก ที่เปิดบ้านเสมอทีมชาติเวียดนาม 0-0 และบุกไปเอาชนะทีมชาติอินโดนีเซียได้ถึงสนาม เกโลร่า บังกาโน่ 3-0 โดยที่แฟนบอลชาวไทยหลายคนต่างชื่นชมกับฟอร์มการเล่นที่สวยหรูเป็นอย่างมาก ด้วยกระแสที่เริ่มกลับมาเป็นที่นิยมจากเหล่าแฟนบอลชาวไทยอีกครั้ง ทำให้บัตรเข้าชมการแข่งขันในเกมที่พบกับทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ วันที่ 15 ตุลาคม 2562 ที่สนามกีฬามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จำหน่ายหมดลงอย่างรวดเร็ว
สถิติยอดจำนวนผู้ชมในเกมที่เปิดบ้านเสมอกับทีมชาติเวียดนาม 0-0 อ้างอิงตามที่ ไทยรัฐออนไลน์ ได้ระบุไว้ว่า มีจำนวนยอดผู้ชมในสนามทั้งสิ้น 19,011 คน (จากความจุของสนามกีฬามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 25,000 คน) หลายคนอาจจะมองว่าบัตรเข้าชมจำหน่ายหมด แต่มีผู้ชมเข้ามาดูไม่เต็มสนาม ถ้าหากคิดอีกมุมหนึ่งสถิติยอดจำนวนผู้ชมที่เราได้เห็นในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า แฟนฟุตบอลชาวไทยต่างรอคอยกับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้อย่างชัดเจน
นักเตะหน้าใหม่ ก้าวขึ้นมาสู่ทีมชาติไทย
กระแสที่แฟนบอลต่างตั้งคำถามกับเฮดโค้ชหลายคน กับประเด็นการตัดสินใจเรียกนักเตะเข้ามาติด ทัพ ‘ช้างศึก’ ไม่ว่าจะยุคของโค้ชคนไหนก็ตาม มักจะมีแต่นักเตะที่โชว์ฟอร์มได้ไม่ดีเท่าที่ควร แต่ยังคงติดทีมชาติ ส่วนนักเตะที่มีฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นในศึกไทยลีกนั้นกลับไม่เรียกเข้ามาให้โอกาสพิสูจน์ตัวเอง
สองเกมแรกศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ในยุคของ อากิระ นิชิโนะ เริ่มมีนักเตะใหม่เข้ามาติดทีมชาติ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักเตะที่สามารถทำผลงานได้เด่นกับต้นสังกัด และมาพร้อมกับดาวรุ่งที่เตรียมขึ้นมาเป็นความหวังใหม่ของทัพ ‘ช้างศึก’ ในอนาคตข้างหน้า นำมาโดย ศิวกรณ์ เตียตระกูล, พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล, เอกนิษฐ์ ปัญญา และนิติพงษ์ เสลานนท์
‘โค้ชจุ่น’ อนุรักษ์ ศรีเกิด ยังได้กล่าวเพิ่มเติมถึงการเรียกตัวนักเตะเข้ามาติดทีมชาติไทยอีกว่า “การที่โค้ชนิชิโนะ ได้ตัดสินใจเรียกตัวผู้เล่นเข้ามาแต่ละคน บ่งบอกได้ชัดเจนว่า โค้ชมองถึงอะไร ซึ่งผมเข้าใจในสิ่งที่แฟนบอลมักตั้งคำถามว่า ทำไมไม่เลือกคนนี้ ไม่เลือกคนนั้น แต่อีกมุมต้องเข้าใจโค้ชด้วยว่า ผู้เล่นที่เรียกมาทั้งหมด เป็นผู้เล่นที่จะต้องเล่นได้ตามแท็กติก และแนวทางที่โค้ชคิดไว้”
ดังนั้น เหตุผลทั้งหมดที่เรายกนำมาเสนอครั้งนี้ ล้วนเป็นจุดดึงดูดที่มีความสำคัญไม่น้อยกับการตัดสินใจของแฟนฟุตบอลชาวไทยที่ต่างต้องการเห็น ทัพช้างศึกกลับมาทำผลงานได้ดีอีกครั้ง และพร้อมที่จะกลับมาส่งเสียงเชียร์ให้เต็มความจุของสนามได้อย่างเต็มความภาคภูมิใจ สุดท้ายไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกเราแฟนฟุตบอลชาวไทยจะยังคงติดตามให้กำลังใจต่อไปในทุกการแข่งขัน เพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญที่จะนำพาไปสู่ความสำเร็จได้ในอนาคต
Reference & Bibliography
- (2562, 12 กันยายน). คัดมาให้ เปิดยอดผู้ชมทั้ง 2 นัด ‘ทีมชาติไทย’ ในศึกคัดบอลโลก 2022. Thairath, สืบค้นเมื่อ 13 พฤศจิกายน 2562, จาก https://www.thairath.co.th/sport/trcheerthai/1659031
- (2562, 31 สิงหาคม). เชื่อนิชิโนะ! ‘โค้ชจุ่น’ เผยทีมชาติไทยกำลังเปลี่ยนไปในทางที่ดี. Fox Sports Thailand, สืบค้นเมื่อ 13 พฤศจิกายน 2562, จาก https://www.foxsports.co.th/foot-ball/thai-football/166535/เชื่อนิชิโนะ-โค้ชจุ่น-เ/
- (2562, 2 กรกฎาคม).วิเคราะห์ช้างศึกโฉมใหม่ สิ่งที่จะเปลี่ยนไปในยุค อากิระ นิชิโนะ!!. SMM Sport, สืบค้นเมื่อ 13 พฤศจิกายน 2562, จาก https://www.smmsport.com/reader/article/14983
- ช้างศึก ฟุตบอลทีมชาติไทย https://www.facebook.com/changsuek
Additional Information
ผลเขียนชิ้นนี้